CIB จับสาวร้านก๋วยเตี๋ยว เปิดบัญชีม้า 500 ให้แก๊งคอลฯหลอกลงทุนร้านทอง

351

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับสาวร้านก๋วยเตี๋ยว เปิดบัญชีม้า 500 ให้แก๊งคอลฯหลอกลงทุนร้านทอง จนมีเงินหมุนเวียนกว่า 3 ล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัยพล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ และพ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว.กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.3 บก.ปอศ.

ดำเนินคดีกับ น.ส.พรรณิการฯ อายุ 31 ปี

ในฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน, เปิด หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือ เพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ หรือ ยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน โดยประการที่รู้ หรือ ควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการขยายผลจากคดีที่มีผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุน โดยแอบอ้างชื่อห้างทอง “AURORA” มาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยคนร้ายจะมีพฤติการณ์สร้างกลอุบายเพื่อหลอกลวงเหยื่อผ่านเพจเฟซบุ๊กปลอมจำนวนมาก โดยมีการอ้างเป็น เพจเฟซบุ๊กของ “ร้านทองออโรร่า” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งยังใช้โลโก้หรือเอกสารปลอมของร้านทองดังกล่าวทำการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก เพื่อชักชวนเหยื่อให้ลงทุนในการเทรดหุ้น เมื่อเหยื่อลงทุนเงินจำนวนที่สูงขึ้น กลับไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ จากกรณีดังกล่าวทำให้มีประชาชนหลงเชื่อและร่วมลงทุนเทรดหุ้น (ปลอม) จำนวนมาก

โดยจากการสืบสวนขยายผลในส่วนของเส้นทางการเงิน พบบัญชีธนาคารที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายในคดี ซึ่งมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีเกือบ 3 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนพบตัวของ น.ส.พรรณิการฯ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารดังกล่าว จึงได้เชิญตัวมาเพื่อทำการสอบสวนต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. จากนั้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในข้อหาเปิดบัญชีม้า ซึ่ง น.ส.พรรณิการฯ ให้การว่าตนประกอบอาชีพเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งต่อมาได้รับการชักชวนจากนายทัศนัยฯ ให้เปิดบัญชีธนาคารผ่านทางออนไลน์ให้ โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 500 บาท และมี น.ส.สิริกรฯ เป็นคนเปิดลิงก์ขั้นตอนการเปิดบัญชีธนาคารผ่านทางแอปพลิเคชันในมือถือ (จากตรวจสอบพบว่า น.ส.สิริกรฯ เป็นผู้ต้องหามีหมายจับในคดีหลอกลงทุนอื่นๆด้วย) โดยหลังจากเปิดบัญชีธนาคารเรียบร้อย ได้มอบมือถือพร้อมเบอร์ที่ใช้เปิดบัญชีธนาคารให้กับ น.ส.สิริกรฯ ต่อไป

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า การรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารหรือให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคารของตนเองนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยมีความผิดตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า “เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทราบถึงความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับบัญชีม้า และวิธีป้องกันตนเอง โดยอย่าเปิดบัญชีธนาคารให้กับคนอื่น, อย่าให้ใครยืมใช้บัญชีธนาคาร, หมั่นตรวจสอบบัญชีเป็นประจำ หากพบความผิดปกติ ให้รีบแจ้งธนาคารทันทีเพื่อขอคำแนะนำ และระงับบัญชี, ระวังข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลบัตรประชาชนทั้งด้านหน้า-หลัง, รหัส OPT ของธนาคาร เพราะมิจฉาชีพอาจนำข้อมูลเหล่านั้น ไปเปิดบัญชีม้าได้ และกรณีที่มีหมายเรียกจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจมายังท่าน ขอให้ดำเนินการตามหมายเรียก อย่าละเลยไม่ดำเนินการตามหมายเรียก มิฉะนั้นอาจเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับได้

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#CIB#ข่าวอาชญากรรมวันนี้