ปฏิบัติการ MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.3 ตำรวจไซเบอร์คืนเงินได้ต่อเนื่อง ล่าขบวนการหลอกลวงออนไลน์ ตุ๋นเหยื่อ 4 ล้านบาท ตามอายัดทัน 2 ล้านกว่า นำคืนผู้เสียหาย
ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
วันศุกร์ที่ 2 พ.ค.68 เวลา 14.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.,พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท.และ พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข รอง ผบก.ตอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ปฏิบัติการ MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.3 ตำรวจไซเบอร์คืนเงินได้ต่อเนื่อง ล่าขบวนการหลอกลวงออนไลน์ ตุ๋นเหยื่อ 4 ล้านบาท ตามอายัดทัน 2 ล้านกว่า นำคืนผู้เสียหาย
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยก่อนหน้านี้ สามารถติดตามและนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “Money Cash Back” ไปแล้ว จำนวน 4 ล้านบาท ไปเรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด ได้มีผู้เสียหาย อายุ 74 ปี เป็นข้าราชการบำนาญเกษียณมาแล้ว 15 ปี ถูกคนร้ายอ้างว่าโทรมาจากกรมวิชาการเกษตร ให้ผู้เสียหายโอนเงินไปเพื่อตรวจสอบบำนาญตกทอด เกี่ยวกับสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาล จากนั้นหลอกให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนในไลน์ แล้วสนทนาหลอกลวง จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้คนร้าย อีกจำนวนหลายครั้ง ต่อมาผู้เสียหายถูกบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ แจ้งว่าผู้เสียหายเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ให้ส่งเงินทั้งหมดมาตรวจสอบ ผู้เสียหายจึงโอนไป รวมความเสียหายประมาณเกือบ 4 ล้านบาท ซึ่งในเคสนี้ สามารถดำเนินการอายัดเงินของผู้เสียหายที่โอนไปได้ทันจำนวน 2,000,000 บาท (สองล้านบาทถ้วน)
และอีกหนึ่งเคสพบผู้เสียหายอายุ 40 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ซึ่งต้องการหารายได้เสริมทางออนไลน์ กลับโชคร้ายถูกมิจฉาชีพหลอกสูญเงินหลายหมื่นบาท โดยจะต้องชำระเงินให้กับเว็บไชต์ก่อน และเมื่อทางเว็บไชต์ได้ส่งสินค้าให้กับลูกค้าแล้ว ผู้เสียหายถึงจะได้รับเงิน ต่อมามีลูกค้าสั่งซื้อสินค้า จำนวน 4 ครั้ง ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้ชำระเงินให้กับทางเว็บไชต์ไป ความเสียหายทั้งหมดเป็นเงิน รวม 32,600 บาท สุดท้ายก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ซึ่งในเคสนี้ สามารถดำเนินการอายัดเงินของผู้เสียหายที่โอนไปได้ทันจำนวน 5,250 บาท (ห้าพันสองร้อยห้าสิบบาท)
โดยทั้งสองเคส บัญชีคนร้ายที่ผู้เสียหายทั้งสองคนโอนไปเป็นบัญชีเดียวกันแสดงให้เห็นว่าคนร้ายใช้วิธีการการหลอกเหยื่อในหลายรูปแบบ
ภายหลัง พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข รอง ผบก.ตอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับ นายสิทธิพงษ์ เจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายทั้งสองรายโอนเงินไปให้คนร้ายในครั้งนี้
จากการซักถามปากคำนายสิทธิพงษ์ ไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์เงินที่ถูกอายัดในบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา เนื่องจากตนเองรู้ดีว่าเป็นเงินที่ตนเองไม่มีสิทธิที่จะได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และยินดีคืนให้แก่ผู้เสียหายในคดีนี้
โดยวันนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงิน จำนวน 2 ล้านบาท และจำนวน 5,250 บาท ดังกล่าว มอบคืนให้แก่ผู้เสียหาย ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้าคว้าเงินคืน”

