“กั๋ว เหยียนจุน” นักวิชาจัยเอเชียศึกษาฯ ชี้จีน-อาเซียน เสริมหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกใหม่

987

ปักกิ่ง, 28 เมษายน 2568 — เวลา 09.00 น. ณ กรุงปักกิ่ง ศาสตราจารย์ กั๋ว เหยียนจุน (Mr. Guo Yanjun) ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการ ศูนย์วิจัยประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ และนักวิจัยประจำสถาบันเอเชียศึกษา วิทยาลัยกิจการต่างประเทศจีน บรรยายพิเศษในหัวข้อ “ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-อาเซียน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลก” ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนไทย

งานนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และศูนย์การศึกษาและฝึกอบรม สำนักสารนิเทศต่างประเทศแห่งประเทศจีน (CICG) โดยมี ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ประธานหลักสูตรผู้บริหารธุรกิจไทย-จีน และที่ปรึกษาหลักสูตรผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย-จีน เป็นหัวหน้าคณะนำผู้เข้าอบรมเข้าร่วมรับฟังการบรรยายอย่างพร้อมเพรียง

ศาสตราจารย์ กั๋ว เหยียนจุน เปิดการบรรยายด้วยการกล่าวถึงความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับประเทศไทย โดยระบุว่าแม้จะมีกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่ส่วนตัวพบว่าประเทศไทยมีความปลอดภัยและน่าเที่ยวมาก พร้อมเน้นย้ำกับเพื่อนชาวจีนว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย

จากนั้นเข้าสู่เนื้อหาหลัก ศาสตราจารย์กั๋ว เหยียนจุน ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลกในปัจจุบัน โดยเน้นประเด็น “ดุลอำนาจโลก” ระหว่างตะวันออกที่กำลังเติบโตและตะวันตกที่มีแนวโน้มถดถอย โดยเฉพาะในมิติทางเศรษฐกิจที่เห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วน GDP และการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกของจีน ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

ศาสตราจารย์กั๋ว เหยียนจุน ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีอิทธิพลต่อ ประเทศอาเซียนและภูมิภาคอาเซียนอย่างมาก โดยจีนยึดแนวทางการเป็นหุ้นส่วนที่เสมอภาค ไม่เน้นการควบคุมหรือจัดลำดับชั้นอำนาจแบบสหรัฐฯ พร้อมย้ำว่าจีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาร่วมกันกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน

ในด้านยุทธศาสตร์ ศาสตราจารย์กั๋ว เหยียนจุน ยกตัวอย่างการจัดประชุมเพื่อกำหนด 4 นโยบายหลักสำหรับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อการเสริมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน, การพัฒนาเศรษฐกิจและวัฒนธรรม, การรักษาความสัมพันธ์ที่มั่นคง และการส่งเสริมความร่วมมือในห่วงโซ่อุปทานการผลิต และยังเน้นย้ำบทบาทของ RCEP (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค) ที่จะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการส่งเสริมการค้าเสรีระหว่างจีนและอาเซียน ท่ามกลางสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่เริ่มรุนแรงหลังปี 2018 โดยการขยายความร่วมมือจะเน้นในสาขาใหม่ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและพลังงานสีเขียว

ศาสตราจารย์ กั๋ว เหยียนจุน ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในโครงการต่างๆ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว และการเชื่อมโยงระหว่างจีนกับเวียดนาม กัมพูชา และไทย ซึ่งจะนำไปสู่การขยายเครือข่ายเศรษฐกิจขนาดใหญ่ระหว่างเอเชียและยุโรปด้วย

ในช่วงท้ายของการบรรยาย นายกั๋วย้ำถึงบทบาทสำคัญของอาเซียนในฐานะศูนย์กลางของความร่วมมือในภูมิภาค และการใช้กรอบ RCEP เป็นกลไกหลักในการสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืน พร้อมทั้งวิพากษ์แนวคิดตะวันตกที่พยายามกำหนดค่านิยมสากลจากมุมมองของมหาอำนาจ โดยเสนอว่าค่านิยมร่วมกันของมนุษยชาติควรเป็นแนวทางใหม่ในการปรับระเบียบโลก

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์กั๋ว เหยียนจุน ยังได้เปิดเผยแผนของจีนในการสร้างการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับอาเซียน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และวัฒนธรรม ผ่านกลไกพหุภาคี เช่น ARF และ EAS รวมถึงการส่งเสริมเยาวชนผ่านโครงการนักการทูตในอนาคต เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับจีนในภูมิภาค

สำหรับการบรรยายครั้งนี้สะท้อนถึงยุทธศาสตร์การทูตของจีนที่เน้นความร่วมมือและการพัฒนาร่วมกันในระดับภูมิภาค ท่ามกลางการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์กับสหรัฐฯ และการเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลกที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง