“ นับแต่เกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาสและ4 อำเภอของสงขลา มากว่า 20 ปี น้อยมากที่จะเห็นข้าราชการในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จะถูกคำสั่งเด้งแบบฟ้าผ่า หลังจากเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเหตุใหญ่หรือเล็กน้อยหรือเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในพื้นที่เดียวกัน“

กระทั่ง เมื่อวันที่ 21 เมษายน พล.ต.ต.ไมตรี สันตยานุกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.) นราธิวาส ลงนามคำสั่งที่ 329/2568 ย้าย พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร นราธิวาส โดยขาดจากตำแหน่งเดิม สั่งให้ว่าที่ พ.ต.อ.นพดล ดิเรกวัฒนสาร ผู้กำกับการสอบสวนตำรวจภูธรนราธิวาส รักษาราชแทน มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนเป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ระบุเหตุผลว่าเนื่องด้วยเมื่อเวลา 18.45 น.วันที่ 20 เมษายน เกิดเหตุระเบิดบริเวณริมกำแพงถนนหลังสภ.โคกเคียน เป็นเหตุให้ตำรวจและประชาชน ได้รับบาดเจ็บหลายราย ทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหาย จึงส่งผลให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวและขาดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์ทางราชการ
พล.ต.ต.ไมตรี อธิบายเพิ่มเติมว่าเป็นคำสั่งปกติ ไม่ได้กลั่นแกล้งหรือไม่ให้ความเป็นธรรม มีการพิจารณามาตั้งแต่ต้นปี 2568 แล้ว เพราะมีเหตุระเบิด 4 จุดในพื้นที่ อ.เมือง นราธิวาส อาทิเหตุระเบิดสนามบินนราธิวาส 23 กุมภาพันธ์และเหตุระเบิดล่าสุดวันที่ 20 เมษายน มีประชาชนและเด็ดบาดเจ็บกว่า 10 ราย พลันที่คำสั่งแพร่ออกไปมีชาวบ้านกว่า 100 คนเดินไปให้กำลังใจ พ.ต.อ.วีรยุทธ ที่โรงพัก พร้อมกับยืนยันว่า พ.ต.อ.วีรยุทธ คลุกคลีกับชาวบ้านมาตลอด มีปัญหาความเดือดร้อนต่างๆหรือคดีความจะเร่งดำเนินการให้ทันที แม้ไม่มีใครเห็นความดีแต่ชาวโคกเคียนต่างรับรู้ทุกคน
นายรอซดี ดาโอะ ตัวแทนชาวบ้านบอกว่าชาวบ้านทราบข่าวแล้วไม่สบายใจเดินทางมาให้กำลังใจ ที่ท่านถูกสั่งย้ายแบบเร่งด่วน พ.ต.อ.วีรยุทธมีผลงานมากมายชาวบ้านพึ่งพาได้ ที่พวกเราภูมิใจมาที่สุดคือท่านอนุญาตให้สร้างที่ละหมาดที่โรงพักซึ่งโรงพักอื่นไม่ค่อยมี เวลาปฏิบัติหน้าที่ให้ความสำคัญกับทุกศาสนา ไม่ว่าศาสนาพุทธหรือศาสนาอิสลาม
ขณะที่ประชาชนมาให้กำลังใจ พ.ต.อ.วีรยุทธ ถือเอกสารที่ให้การรับรองว่าได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติอะไรบ้าง จากผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมกับกล่าวว่า ไม่รับความเป็นธรรมจากคำสั่งย้ายที่ให้ไปประจำที่ บก.ภ.จว.นราธิวาส ด้วยการอ้างเหตุระเบิดข้างรั้วกำแพงโรงพัก
“ที่ผ่านมา สภ.โคกเคียนมีแผนปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันมาตลอด รายงานผลทางช่องไลน์ของผู้บังคับบัญชาตลอด แผนปฏิบัติเวลา 1 ทุ่ม จะปล่อยแถวหน้าโรงพัก มีกำลังประมาณ 25 นาย เวลา 19.00น.-22.00 น. จราจรจะต้องด่านหน้าโรงพัก พร้อมวางกำลังข้างถนนหลังโรงพักทุกวัน เพื่อดูแลประชาชน มีการป้องกันอย่างดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยที่จะป้องกันได้ การออกคำสั่งครั้งนี้ผมถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งที่ตลอดมาผมทำงานด้วยความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์”พ.ต.อ.วีรยุทธกล่าว
หากมองถึงคำสั่งเด้ง พ.ต.อ.วีรยุทธแบบฟ้าผ่า น่าจะมีไม่เพียงคำสั่งเดียวที่เกิดขึ้นในแวดวงตำรวจก็ว่าได้ที่อ้างเหตุคนร้ายก่อความไม่สงบแล้วสั่งย้ายหัวหน้าโรงพักเพียงคนเดียว เพราะแม้แต่ทหารมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยังไม่เคยเห็นว่านายทหารที่คุมพื้นที่ถูกย้ายด่วนแม้แต่รายเดียว
ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่ามีวาระซ่อนเร้นอะไรหรือไม่ เพราะปกติในแวดวงตำรวจต่างทราบกันดีว่าหากหัวหน้าโรงพักหรือตำรวจนายไหนที่ถูกสั่งย้ายแบบฟ้าผ่า ตำรวจที่ถูกสั่งย้ายมักจะสงบปากสงบคำ ไม่กล้าวิจารณ์ว่าเป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากส่วนใหญ่มักจะรู้ตัวเองดีว่ามีความผิดจริง
แต่กรณี พ.ต.อ.วีรยุทธ กลับโต้กลับว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แถมชาวบ้านกว่า 100 คนเดินมาให้กำลังใจพร้อมการันตีว่าปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี เหมือนกับที่บรรดาผู้บังคับบัญชาในภาค 9 ให้รางวัลเชิดชูเกียรติ
ยิ่งมองถึงประเด็นที่ พ.ต.อ.วีรยุทธบอกว่าเป็นเหตุสุดวิสัย พอฟังขึ้น เพราะอย่าลืมว่าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีด่านตรวจทั้งทหารและตำรวจ จำนวนมากแต่กลับปล่อยให้ระเบิดหลุดเข้าไปถึงเขตเมืองนราธิวาสได้
เมื่อประเมินจากความเคลื่อนไหวของ พ.ต.อ.วีรยุทธ ที่สู้กลับบวกกับความเคลื่อนไหวของชาวบ้านที่แห่ให้กำลังใจ อดสงสัยไม่ได้ว่าการย้ายไม่ชอบมาพากลหรือไม่ เพราะย้ายแบบฟ้าผ่าอ้างเหตุความไม่สงบ ซึ่งหน่วยงานอื่นในพื้นที่ไม่ค่อยจะทำกัน เว้นจะย้ายคนใกล้ชิดไปนั่งเพื่อแสวงประโยชน์เท่านั้น
ดังนั้นเพื่อไม่ให้สังคมและชาวบ้านในพื้นที่คาใจ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.ช่วยตรวจสอบทำความจริงให้ปรากฏด้วย เพื่อจะได้เป็นขวัญกำลังใจให้กับตำรวจที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ในพื้นที่ปลายด้ามขวานแล้วถูกย้ายไม่เป็นธรรม !!!
