ตำรวจไซเบอร์รวบ 2 หนุ่มใหญ่สุราษฎร์ เครือข่ายใหญ่หวยใต้ดินออนไลน์นาสาร

280

ตำรวจไซเบอร์รวบ 2 หนุ่มใหญ่สุราษฎร์ เครือข่ายใหญ่หวยใต้ดินออนไลน์นาสาร ทำเงินหมุนเวียนกว่า 1 ล้านต่อเดือน พร้อมรวบเครือข่ายซื้อขายบัญชีม้าและโจรออนไลน์

ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.
ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

วันพฤหัสบดีที่ 17 เม.ย.68 เวลา 13.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตร์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3, พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 และ พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว

ตำรวจไซเบอร์รวบ 2 หนุ่มใหญ่สุราษฎร์ เครือข่ายใหญ่หวยใต้ดินออนไลน์นาสาร ทำเงินหมุนเวียนกว่า 1 ล้านต่อเดือน

สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนนำมาสู่ผลการปฏิบัติดังนี้

1. จับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์ (หวยใต้ดิน) จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 2 ราย

– รวบ 2 หนุ่มใหญ่สุราษฎร์ เครือข่ายใหญ่หวยใต้ดินออนไลน์ เงินหมุนเวียนกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน

2. จับกุมเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย

    – รวบเครือข่ายอ้างกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหลอกติดตั้งแอปดูดเงิน ความเสียหาย 7.6 ล้าน จำนวน 1 ราย

    – รวบ 2 บัญชีม้า ขายบัญชีผ่านเฟซบุ๊กนายหน้า จำนวน 2 ราย

จับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์ (หวยใต้ดิน)

ปฏิบัติการที่ 1 : กก.3 บก.สอท.5 รวบ 2 หนุ่มใหญ่สุราษฎร์ เครือข่ายใหญ่หวยใต้ดินออนไลน์นาสาร เงินหมุนเวียนกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สายตรวจไซเบอร์ของ กก.3 บก.สอท.5 ได้ทำการลาดตระเวนบนสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเฝ้าติดตามผู้กระทำความผิดในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ต่อมา พบผู้กระทำความผิดบนแพลตฟอร์ม Facebook บัญชีหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความโฆษณาให้มีการเล่นการพนัน(หวย) โดยตั้งสถานะโพสต์เป็นสาธารณะ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และจากการสืบสวนหาข่าวยังพบว่าเจ้าของผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ยังจัดให้มีการเล่นการพนันหวยใต้ดินอีกด้วย

ต่อมา วันที่ 16 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 ได้นำกำลังแฝงตัวและซุ่มดูบริเวณบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.2 ต.น้ำพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี พบเห็นผู้คนเดินเข้าออกบริเวณหลังบ้านดังกล่าวจำนวนหลายคน ต่อมา พบนายประกิจ อายุ 57 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามายังบ้านหลังดังกล่าว เมื่อสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงท่าทีมีอาการพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัว และเดินไปยังหลังบ้านหลังดังกล่าว พบมีลักษณะห้องจัดเป็นห้องทำงาน มองเห็นคนกำลังลงรายการหวยอยู่ภายในห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ

จึงเข้าตรวจสอบ พบนายเอกรัก อายุ 51 ปี กำลังกรอกรายการรับแทงหวยจากลูกค้าลงในกระดาษรายการรับแทงหวย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว และขอตรวจค้น พบของกลาง ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง,แผ่นฟิวเจอร์บอร์ดซึ่งแต่ละแผ่นแปะด้วยกระดาษสำหรับกรอกยอดเงินของรายการหวยใต้ดิน ตั้งแต่ตัวเลข 000 ถึง 999 (1,000 รายการ) จำนวน 5 แผ่น, กระดาษจดรายการหวยใต้ดิน งวดประจำวันที่ 16 เม.ย.68 จำนวน 3 แผ่น, กระดานไวท์บอร์ดสำหรับเขียนหวยใต้ดินที่ปิดรับซื้อ ประจำงวดวันที่ 16 เม.ย.68 จำนวน 1 อัน พร้อมด้วยเครื่องเขียนต่างๆ อีกหลายรายการ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันจับกุม นายประกิจ อายุ 57 ปี และ นายเอกรัก อายุ 51 ปี ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อช่วยประกาศ โฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน (หวยใต้ดิน) ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.การพนัน”

จากการสอบถาม ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และรับว่าตนขายสลากกินรวบ (หวยใต้ดิน) ให้แก่ลูกค้าหลายราย ทั้งช่องทางออนไลน์และลูกค้าในละแวกบ้านที่นำโพยหวยใต้ดินมาส่งที่บ้าน เมื่อตนเองรับแทงหวยจากลูกค้าแล้ว ก็จะส่งต่อให้เจ้ามือทางช่องทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยตนเองได้เปิดรับแทงหวยใต้ดินมาประมาณ 2 ปี แล้ว สามารถทำเงินได้ประมาณ 600,000 – 1,000,000 บาท ต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 อยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อขยายผลไปยังเจ้ามือและผู้ร่วมขบวนการรายอื่น เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จับกุมเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์

ปฏิบัติการที่ 2 : กก.1 บก.สอท.1 รวบเครือข่ายอ้างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หลอกติดตั้งแอปดูดเงิน

สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายโทรศัพท์มาที่เบอร์ส่วนตัว อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขออัปเดตข้อมูลบริษัทของผู้เสียหาย ซึ่งคนร้ายสามารถแจ้งชื่อบริษัทของผู้เสียหายได้ถูกต้อง จากนั้น ได้ให้ผู้เสียหายแอดไลน์ ชื่อ “DBD Registration” หลังจากนั้น ผู้ใช้ไลน์ดังกล่าวได้ส่งข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทของตนมาให้โดยมีข้อมูลถูกต้อง ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจจริง

ต่อมา ผู้ใช้ไลน์ดังกล่าวได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าดำเนินการในการแก้ไขบัญชี จำนวน 50 บาท ไปยังบัญชีธนาคารปลายทาง และได้ส่งลิงก์ให้ผู้เสียหายกดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและทำตามขั้นตอนที่ผู้ใช้ไลน์แจ้ง ต่อมา เมื่อผู้เสียหายได้ทำตาม ปรากฎว่าหน้าจอค้างไม่สามารถทำรายการอะไรได้ จึงได้ปิดและเปิดเครื่องใหม่ พบว่ามีเงินถูกออกจากบัญชีธนาคาร จำนวน 15 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 7,635,171 บาท

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้หลายราย กระทั่งสามารถจับกุม นางสาวพิมพ์อร อายุ 26 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 5871/2567 ลงวันที่ 6 ธ.ค.67 ในข้อหา“ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน,ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางสวนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน,ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบและเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น” นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

ปฏิบัติการที่ 3 : กก.1 บก.สอท.3 รวบ 2 บัญชีม้า ขายบัญชีผ่านเฟซบุ๊กนายหน้า

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สอท.3 ได้ตรวจสอบพบเพจเฟซบุ๊กประกาศรับซื้อขายบัญชีธนาคาร มีผู้ติดตามจำนวนกว่า 6,000 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนและทดลองติดต่อเพื่อล่อซื้อบัญชีธนาคารจากเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก จำนวน 2 บัญชี ในราคาบัญชีละ 6,000 บาท

ต่อมา ได้นัดหมายส่งมอบบัญชีธนาคารหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขารังษิณา ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อถึงเวลานัดหมาย พบ น.ส.อังคณาฯ และ นายชัยวัฒน์ฯ ยืนรออยู่ที่จุดนัดหมาย จึงได้เข้าพูดคุยและทดลองเข้าใช้งานบัญชีธนาคารที่ล่อซื้อไว้ผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking พบว่าสามารถใช้งานได้จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและจับกุม

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด”

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รับสารภาพว่าได้นำบัญชีธนาคารดังกล่าวเพื่อมาจำหน่ายจริง โดยได้รับการติดต่อจากบัญชีเฟซบุ๊กของนายหน้าว่ามีลูกค้าต้องการซื้อบัญชีธนาคารและให้นำสินค้าไปส่งที่หน้าห้างโลตัส สาขารังษิณา

จากการตรวจสอบพบว่า เพจเฟซบุ๊กดังกล่าวยังได้ลงประกาศรับซื้อขายบัญชีธนาคารในกลุ่มสาธารณะ มีแอดมินหรือเจ้าของเฟซบุ๊กที่เป็นนายหน้ารับซื้อขายบัญชีธนาคาร โดยมีการประกาศซื้อขายกันอย่างโจ่งแจ้งในกลุ่มดังกล่าว แต่ใช้วิธีหลบเลี่ยงการจับกุมโดยทำหน้าที่เป็นนายหน้าคนกลาง เมื่อมีลูกค้าติดต่อซื้อบัญชี
ก็จะส่งเจ้าของบัญชีที่ต้องการขายไปพบลูกค้าด้วยตนเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งขยายผลเพื่อติดตามจับกุมเจ้าของเพจ แอดมิน นายหน้า รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่นๆ มาดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมดต่อไป

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#ตำรวจไซเบอร์#ข่าวอาชญากรรมวันนี้