ที่ บช.ภ.5 จว.เชียงใหม่ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อติดตามผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม รวมถึงแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ป้องกันและปราบปราม การกระทำความผิดที่เป็นอันตรายต่อความสงบเรียบร้อย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2562 ในพื้นที่กองบังคับตำรวจภูธรภาค5 ซึ่งรับผิดชอบ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
พลตำรวจตรีภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า การระดมกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่าจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนอาวุธสงครามวัตถุระเบิด และระดมกวาดล้างจับกุมบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและอยู่เกินกำหนดที่ได้รับอนุญาตหรือ Over Stay ตั้งแต่วันที่8 ตุลาคม 2561 -31มกราคม 2561
โดยผลปฏิบัติการเบื้องต้นตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีอาญาและคดีค้างเก่าได้ 1,299คน คดีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด จับกุมผู้ต้องหา 123 คน ของกลางอาวุธปืน 195 กระบอก คดียาเสพติด จับกุม ผู้ต้องหา 826 คน ของกลางยาบ้ากว่า33ล้านเม็ด เฮโรอีนกว่า 1 แสนกรัม ไอซ์กว่า22กรัม กัญชากว่า220กรัม และ ฝิ่นกว่า1,204กรัม นอกจากนี้ยังดำเนินการกับบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดจำนวน 461 คน ส่วนใหญ่ร้อยละ 60 เป็นชาวเมียนมา
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ตำรวจสืบสวนภูธรภาค5 สามารถจับกุมผู้ต้องหา4ราย เป็นชาวไต้หวัน 3 คน และ ชาวไทย1คน พร้อมของกลางเฮโรอีน 80 กิโลกรัม มูลค่า 80 ล้านบาท ได้ที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ โดยเชื่อว่าผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาแก๊งยาเสพติดข้ามชาติที่เคยถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมได้บนรถไฟเมื่อปีที่แล้ว จากการสอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้รับเฮโรอีนจากคนไทยและนำกลับไปไต้หวันแล้ว2ครั้ง ซึ่งจะมีหญิงชาวไทยเป็นคนคอยสั่งการ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนติดตามตัวหญิงชาวไทยมาดำเนินคดีต่อไป
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้ ตำรวจภูธรภาค 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง โดยเน้นเข้มงวดเรื่องการติดตามหมายจับค้างเก่าอาวุธปืนและมือปืนรับจ้าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน
ส่วนกรณีที่ช่วงนี้ยาเสพติดเข้ามาทางภาคเหนือจำนวนมากคาดว่า น่าจะผลิตง่ายขึ้น โดยสั่งการให้เน้นสืบสวนขยายผลและล่อซื้อ เพื่อติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี ยืนยันขนาดนี้เหตุการณ์ทางภาคเหนือปกติ พร้อทฝากให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาหากพบสิ่งผิดปกติขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ