รวบตัวแล้วโจรมาเลฯชิงทองอุกอาจกลางเมืองหาดใหญ่ หลัง พล.ต.อ.ธนายุตม์ ลงพื้นที่สั่งไล่ล่าได้ตัว

เมื่อวันที่ 10 2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.,เปิดเผยว่า ภายหลังที่ตนได้ลงพื้นที่เรียกประชุม เร่งรดติดตามโจรมาเลเซีย ชิงทรัพย์ทองอุกอาจกลางเมืองหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้กำชับและข้อสั่งการของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.,
ตนได้ ได้เร่งรัดให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9, พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์
รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา, พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผบก.สส.ภ.9 และ พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 ได้สั่งการบูรณาการการทำงาน โดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.สมพงศ์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.9 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9, กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1, ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี, ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.สงขลา,ฝ่ายสืบสวน กก.6 บก.ป., ฝ่ายสืบสวน สภ.ปากเกร็ด และ ฝ่ายสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ร่วมกับจับกุมผู้ต้องหา

นายอาหวู่พะ สินเกา หรือนายอนุชา แซ่โหยว หรือนายลี บุน ลง อายุ 62 ปี สัญชาติมาเลเซียผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.269/2568 ลงวันที่ 8 เมษายน 2568

พร้อมด้วยของกลาง
1.สร้อยคอทองคำ จำนวน 38 เส้น
2.สร้อยข้อมือทองคำ จำนวน 31 เส้น
3.ตะขอสร้อย จำนวน 5 อัน
4.อาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยีห้อ ซิกซาวเออร์ หมายเลขทะเบียนลบเลือน จำนวน 1 กระบอก
5.แมกกาซีนปืน จำนวน 2 อัน
6.กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 50 นัด
7.ซองหนังพกในสีดำ 1 อัน
8.กระเป๋าสะพาย แบบผ้าสีดำ มีตราอดิดาส ขนาด 30×19 ซม. จำนวน 1 ใบ
9.เป้สะพายสีดำมีตราไนกี้ จำนวน 1 ใบ
10.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ออปโป้ สีดำ จำนวน 1 เครื่อง พร้อมซิมการ์ด จำนวน 1 อัน
โดยกล่าวหาว่า “ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน และทำด้วยประการใดๆ เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร”พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อ 8 เม.ย.68 เวลาประมาณ 11.52 น. มีคนร้ายจำนวน 1 คน เข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์
ที่ห้างทองไทยอุดม 2 โดยคนร้ายแต่งกายใส่เสื้อเชิ้ต แขนสั้นสีฟ้า-น้ำเงินเข้ม กางเกงขายาวสีเทา สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงินรองเท้าผ้าใบสีขาว-ฟ้า-ชมพู เข้าไปภายในร้าน แล้วพูดว่า “อย่าส่งเสียงดัง” พร้อมกับเปิดชายเสื้อแสดงให้เห็นอาวุธปืน
จากนั้นจึงได้ทำการเข้าไปชิงเอาสร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือทองคำที่อยู่ภายในร้านไปจำนวน 69 เส้นน้ำหนัก รวม138 บาท มูลค่าประมาณ 6.9 ล้านบาทเศษ แล้วได้ขับขี่ รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ด้วยคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรณจ์สะเทือนขวัญ และคดีเป็นที่สนใจของประชาชน เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุในช่วงเวลากลางวัน ในชุมชน โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เข้าควบคุมสั่งการการสืบสวนสอบสวนด้วยตนเองในทันที ร่วมกับ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดได้ในเวลาอันรวดเร็วเพียง 5 ชม. และขออนุมัติหมายจับต่อศาลได้ในเวลาไม่ถึง 24 ชม.
ต่อมาวันรุ่งขึ้น(9 เม.ย. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่าคนร้ายหลบหนีมายังพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้บูรณาการการทำงานจนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกชิงทรัพย์ไป ได้บริเวณสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.หาดใหญ่ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป”พล.ต.อ.ธนายุตม์ กล่าว“