ตร. ร่วมกับสำนักงาน ปปง. แถลงผลปฏิบัติการปราบปรามการฟอกเงินช่วงครึ่งปีแรก

124

ตร. ร่วมกับสำนักงาน ปปง. แถลงผลปฏิบัติการปราบปรามการฟอกเงินช่วงครึ่งปีแรก ยึดทรัพย์กว่า 1,900 ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปปง.ตร.) ร่วมกับ นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการระดมกวาดล้างปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ห้วงวันที่ 26 ก.พ.-6 เม.ย.2568 สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา 2,337 ราย ของกลาง 1,610,443 ชิ้น มูลค่าของกลาง 296,170,159 บาท จำแนกเป็นคดีสำคัญรายใหญ่ที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน และสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้จำนวน 22 คดี ของกลาง 839,948 ชิ้น มูลค่า 202,863,310 บาท

พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปีงบประมาณ 2568 ห้วง 6 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568 ได้ดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งมีผลการดำเนินคดีอาญาฟอกเงินในภาพรวม จำนวน 252 คดี และสามารถยึดอายัดทรัพย์ได้ จำนวน 1,902,710,831.63 บาท

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ในส่วนของการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าตามนโยบายรัฐบาล ได้สั่งการให้ทุกหน่วยทั่วประเทศเร่งปราบปรามปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้า การครอบครอง และการจำหน่าย โดย ศปปง.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่ดำเนินการจับกุมผู้กล่าวหารายงานตามระเบียบสำนักงานนายกรัฐมนตรีฯ ประสานความร่วมมือกับ ปปง. ดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน และกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ลักลอบเก็บอุปกรณ์ การนำออกไปจำหน่าย และการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำความผิดมูลฐาน ลักลอบหนีศุลกากร ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยทั่วประเทศเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบ มิให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบนำเข้า จำหน่าย ครอบครอง หรือเป็นแหล่งซุกซ่อน หากพบการกระทำความผิด ให้สืบสวนขยายผลให้ได้ข้อเท็จจริง พยานหลักฐานและนำไปสู่การดำเนินคดีตามความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงินฯ ทุกกรณี

ด้าน นายกมลสิษฐ์ กล่าวว่า ในการการดำเนินการตามกฎหมายของสำนักงาน ปปง. เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้านั้น หากเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร จะเป็นความผิดมูลฐานไปสู่การยึดอายัดทรัพย์สินได้ โดย ปปง. จะสามารถดำเนินการได้ 2 แนวทาง คือ การดำเนินการดำเนินการทางอาญาในความผิดมูลฐาน “ฟอกเงิน”และทางแพ่งในการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดและการดำเนินการทางอาญาในความผิดมูลฐาน “ฟอกเงิน”

ทั้งนี้ ประชาชนที่พบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#ตร.#ปปง.