“ผบช.ภ.7”สั่งไล่ล่ารวบ 3 มือยิงอุกอาจกลางเมืองประจวบฯ ชื่นชมชุดสืบฯ ทุ่มเทเร่งรัด ตะครุบตัวได้ภายใน 24 ชม.หลังก่อเหตุ
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 ที่ ภ.7 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 5 เมษายน เวลา 13.30 น. พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ว่ามีเหตุวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงกันที่บริเวณหน้าร้านสะเดาหวาน ถนนประจวบศิริ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จึงได้ออกเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่สืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เมื่อเดินทางถึงที่เกิดเหตุพบ รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ฎฐ 3117 กทม. ได้รับความเสียหายถูกลูกกระสุนปืนยิงเข้าทางกระจกหน้ารถทะลุกระจกหลัง มีนายเสกสิทธ์ แสนสุข แสดงตนเป็นเจ้าของ และหัวกระสุนไปทะลุกระจกหน้ารถกระบะอีซูซุ 6974 ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับความเสียหาย และพบหัวกระสุนปืน จำนวน 1 หัว ตกอยู่ในรถคันดังกล่าว มีนายณัฐพล ภูห้อย แสดงตนเป็นเจ้าของรถ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ และรับคำร้องทุกข์ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย นั้น
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าเมื่อวันที่ 5 เมษายน เวลาประมาณ 12.30 น. คู่กรณีที่ก่อเหตุ ได้โพสข้อความด่าทอกันทางเฟสบุ๊ค และได้นัดไปเคลียร์ใจ ที่ร้านสหายแดนไทย ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เกิดวิวาทและได้ใช้อาวุธปืน ไล่ยิงกัน กระสุนไปถูกรถยนต์ จำนวน ๒ คัน ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายจากกระสุนปืน คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้กระทำอุกอาจ ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ ใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันกลางชุมชน ผู้ได้บังบัญชาจึงได้รายงานให้ตนทราบ ตนจึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เร่งรัดให้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าไปควบคุม กำกับ ดูแลการสืบสวนสอบสวน
โดยจากการสืบสวนสอบสวน ของ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมือง พ.ต.อ.ครรชิต โขวัฒนชัย ผกก.สืบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกำลัง ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับคู่กรณีที่ก่อเหตุ ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงวันที่ 7 เมษายน 68 และได้ติดตามจับกุมคู่กรณีที่ออกหมายจับ โดยชุดสืบสวน บก.ภ.จว.และ ชุดสืบสวน สภ.เมืองฯ ได้บุกรวบตัว ผู้ก่อเหตุได้หมด ทั้ง 3 ราย แล้วครบทุกคน ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน ขยายผลเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตามกฏหมายอย่างเด็ดขาด ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป และขอชื่นชมทีมสืบสวนทุกนายที่ทุ่มเท เร่งรัดจนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุตามหมายจับไดัรวดเร็ว ภาย 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ“ผบช.ภ.7 กล่าว”
