นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตประธานกรรมาธิการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค กล่าวถึงกระแสเพลง ‘ประเทศกูมี’ ทีมีเนื้อหาเสียดสีรัฐบาล คสช. และสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน โดยระบุว่า “เพลง “ประเทศกูมี” กับสถานการณ์บ้านเมือง
ผมดูและฟังเพลง “ประเทศกูมี” แล้ว ก็ต้องบอกว่า ผมก็รักประเทศไทยไม่น้อยกว่าคนไทยคนอื่นๆ เหมือนกัน
ผมฟังและพิจารณาเนื้อหาของเพลง”ประเทศกูมี” แล้ว เห็นได้ว่าแม้ว่าเนื้อหาจะไม่ได้พูดชัดเจนว่าคือ “ประเทศไทย” แต่ทั้งเนื้อหา ภาษาไทย การแสดงออกสัญญาลักษณ์สีธงชาติไทย รวมทั้งผู้แสดง สรุปได้ว่า คนที่ได้ดู ได้ฟังเพลงนี้แล้ว เห็นได้ชัดเจนว่า เนื้อเพลงได้กล่าวและพูดถึง “ประเทศไทย” อย่างปฏิเสธไม่ได้
ส่วนถ้อยคำเนื้อหา ยกข้อเท็จจริง และใช้ถ้อยคำที่เสียดสีสังคม เสียดสีงานราชการหรือเสียดสีผู้บริหารประเทศทั้งที่ผ่านมาและในปัจจุบัน มันไม่ได้มีความหมายเฉพาะตัวบุคคล แต่มันสร้างความรู้สึกให้กับคนฟังโดยเห็นได้ชัดเจนว่า สิ่งที่แสดงออกมันเป็นการเหยียดหยามประเทศไทยชัดๆ
ซึ่งตามเนื้อเพลง ในสิ่งที่ได้ยกขึ้นอ้างนั้น แม้จะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งก็เป็นบางเรื่องและเป็นเรื่องของบางคน และเป็นเรื่องที่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงส่วนเสี้ยวของประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้ทำให้ประเทศไทยแย่ไปหมดทั้งประเทศ แต่ตามเนื้อหาโดยรวมๆแล้วมันกลับทำให้เกิดความรู้สึกและเห็นว่าประเทศไทยไม่มีส่วนดีเลย
ผู้นำเสนอเพลงดังกล่าวมีเจตนาสุจริตที่จะกล่าวอ้างเพื่อให้สังคมดีขึ้นหรือไม่
โดยรวมๆแล้ว มันก็ไม่ใช่เลยเช่นกัน
กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาฉันใด การแสดงออกโดยผ่านเนื้อเพลงและการแสดงออกของภาพประกอบเพลง “ประเทศกูมี” เนื้อเพลงดังกล่าวจะสร้างความสนใจที่จะเกิดแรงผลักดันที่มีผลทำให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังประเทศชาติไทย รวมไปถึงงานราชการและการบริหารประเทศ และจะทำให้ประชาชนเกิดความเกลียดชัง มีความเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อันทำให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติได้ ซึ่งผลที่ออกมาก็จะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมืองขึ้นได้
สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่พ้นที่จะถูกกล่าวได้ว่า มันเป็นการเล่นการเมืองรูปแบบหนึ่ง เป็นการเล่นการเมืองแบบขาดความรับผิดชอบ เล่นการเมืองแบบที่ไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติและประชาชนโดยรวม
ที่ใช้กลยุทธ์และวิธีการเหมือนที่ผ่านๆมา ที่สร้างความรู้สึกให้ประชาชนเกิดการเกลียดชังประเทศไทย สร้างความรู้สึกไม่ดีให้กับประเทศไทย อันจะทำให้ประชาชนให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย สร้างความแตกแยก สิ่งที่เกิดขึ้นนี้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคที่ผ่านมา คงแตกต่างเฉพาะวิธีการเท่านั้น แต่ผลที่ออกมาไม่ต่างอะไรกับการเล่นการเมืองที่ผ่านๆมา
สิ่งสำคัญคือ คงต้องยับยั้งไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสังคมไทยอีก ต้องยับยั้งไม่สร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติ และไม่สร้างความแตกแยกให้กับประชาชน
ต้องรู้ทันเรื่องเหล่านี้ และขอให้ประชาชนอย่าได้คล้อยตามกระบวนการและการกระทำในเรื่องเหล่านี้ที่เป็นการเล่นการเมืองรูปแบบหนึ่ง เพราะมันมิได้เป็นผลดีของคนในชาติทั้งปวง และขอให้ฝ่ายที่สร้างสิ่งเหล่านี้ได้ตระหนัก อย่าสร้างสถานการณ์ อย่าทำเพื่อความสะใจหรือเพื่อความมันในอารมณ์แต่เพียงอย่างเดียว หรืออย่าระบายความโกรธแค้นด้วยวิธีการเหล่านี้ เพราะสิ่งที่ทำกันอยู่นี้เป็นเรื่องบอบบางที่เกิดความเป็นชาตินิยม หรือเกิดความรังเกียจในชาติของตนได้ไม่ยาก
ซึ่งในเรื่องลักษณะเช่นเดียวกันนี้ ต่อไปก็คงจะเกิดขึ้นอีกในรูปแบบอย่างใดอย่างหนึ่งที่สังคมไทยก็จะได้พบการกระทำในลักษณะเช่นนี้อีกไม่น้อย คงต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจถึงการ กระทำในสิ่งเหล่านี้ ที่มีการกล่าวอ้างหรือแสดงออกในเนื้อเพลง กับประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองให้แยกออกจากกัน มิฉะนั้น ข้อความเห็นหรือข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ได้สร้างประโยชน์หรือไม่ได้ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น แต่มันจะยิ่งทำให้สถานการณ์ของบ้านเมืองเลวร้ายมากไปกว่าความเป็นจริงหรือมากไปกว่าเดิม”
https://www.facebook.com/sereelaw/posts/1055335991337204