ป.ป.ส. เปิดประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จับมือกันทุกภาคส่วนมุ่งสู่สังคมปลอดภัยจากยาเสพติด
วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม 2568 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด หรือ ศปก.ครส. ร่วมกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้แทนคณะกรรมาธิการทหาร และนายโกศล ปัทมะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุม ศปก.ครส. ครั้งที่ 6/2568 โดยมีคณะที่ปรึกษาของ ศปก.ครส.พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานภาคี จาก 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ณ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ สำนักงาน ป.ป.ส. และทางผ่านระบบออนไลน์
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวเปิดการประชุม โดยแจ้งประเด็นการดำเนินการที่สำคัญ ดังนี้
1.โครงการปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “SEAL STOP SAFE” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดนกำหนดให้มีการประมวลผลการปฏิบัติตามตัวชี้วัด ทั้ง 4 ตัวชี้วัด ผ่านการประชุม ศปก.ครส. เป็นประจำเดือนละ 2 ครั้ง
2.การประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (CND) สมัยที่ 68 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ระหว่างวันที่ 10 – 14 มีนาคม 2568 โดยในปีนี้ สำนักงาน ป.ปส. จะผลักดันให้ปัญหา “ยาบ้า” เป็นปัญหาที่ทั่วโลกต้องให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการแก้ไขปัญหา โดยที่ประชุมได้ให้การยอมรับว่ายาบ้าเป็นปัญหาระดับโลก และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยาบ้าเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข โดยสร้างความร่วมมือกันในระดับโลก
ในลำดับต่อมา ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงาน ป.ป.ส. แจ้งประเด็นสำคัญในเรื่องสถานการณ์ยาเสพติดโดยเปรียบเทียบปริมาณยาเสพติดในรอบ 6 เดือน ตั้งแต่ ตุลาคม 2567 ถึง มีนาคม 2568 โดยเทียบกับในช่วงปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 6.8 เท่า และมีการรายงานผลการดำเนินการ ในห้วงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 25 มีนาคม 2568 ในทุกมิติ
ทั้งในมิติด้านการปราบปราม มิติด้านการแก้ไขปัญหาผู้เสพยาเสพติด มิติด้านการป้องกันยาเสพติด และมิติด้านการบริหารจัดการ ถือเป็นการรายงานผลการดำเนินการขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ ผ่านผู้แทนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย สำนักปราบปรามยาเสพติด และสำนักยุทธศาสตร์ สำนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งผลการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นแนวทางในการเร่งขับเคลื่อนงานยาเสพติดในทุกมิติ มุ่งสู่สังคมปลอดภัยจากยาเสพติด โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. มีข้อเสนอแนะดังนี้
1.การเพิ่มตัวชี้วัดในการขยายผลจากการจับกุมในคดีความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ไปสู่คดีการสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือข้อหาสมคบ สนับสนุนฯ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการในการสืบสวนขยายผลในคดีสมคบให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และขอให้จังหวัดที่ยังดำเนินการไม่เป็นไปตามตัวชี้วัดให้เร่งดำเนินการเพื่อลดปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต่อไป
2.เร่งรัดและติดตามการดำเนินการทำลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่บริเวณชายแดน เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้มีการเข้าสู่กระบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ชายแดน
3.ปัญหาผู้เสพผู้ป่วย กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเปาะบาง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการสะท้อนปัญหาที่แท้จริงของการดำเนินการในพื้นที่ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติดในพื้นที่ได้จริง ตามนโยบายผู้เสพคือผู้ป่วย โดยร่วมกันบูรณาการในพื้นที่เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จะหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทยต่อไป
4.ควรมีการดำเนินการร่วมกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการบำบัดและฟื้นฟูผู้เสพผู้ติดในพื้นที่
5.เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณด้านการขับเคลื่อนงานในพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนงานยาเสพติดต่อไป
6.การดำเนินการโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ปี 2568 จะมีการหารือกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการในพื้นที่ต่อไป
7.เน้นย้ำการนำเข้าข้อมูลกำลังพลฯ ประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อส่งเสริมผู้ปฏิบัติงานยาเสพติดในพื้นที่
8.ความคืบหน้าการจัดซื้อชุดทดสอบหาสารเสพติดในปัสสาวะ สำนักงาน ป.ป.ส. คาดการณ์ว่า จะได้รับชุดทดสอบฯ ภายในเดือนพฤษภาคม 2568 ซึ่งจะเร่งรัดจัดสรรให้ ปปส.ภ.1-9/กทม. เพื่อสนับสนุนให้จังหวัด โดยเฉพาะ 12 จังหวัดต้นแบบ ในการค้นหาผู้เสพ/ผู้ติด ป้องปราม และเฝ้าระวังยาเสพติดในพื้นที่ต่อไป
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้แทนคณะกรรมาธิการทหาร กล่าวขอบคุณ และชื่นชมการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีที่ร่วมกันดำเนินการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยในฐานะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินการการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดต่อไป
นายโกศล ปัทมะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวชื่นชมการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยภาคี โดยเฉพาะในการแก้ปัญหาผู้ค้ารายย่อย ในโครงการยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อยซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวขอบคุณกระทรวงมหาดไทยที่ดำเนินการตรวจสถานบริการอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มความถี่ในการตรวจสถานบริการและสถานบันเทิงเพิ่มมากขึ้น พร้อมขอบคุณ ชื่นชม และให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่สามารถดำเนินการตามตัวชี้วัดได้ร้อยละ 100 และจะมีการเพิ่มตัวชี้วัดในจังหวัดดังกล่าว เพื่อเร่งรัดและขับเคลื่อนการดำเนินงานจับกุมเป้าหมายเครือข่ายการค้ายาเสพติดในพื้นที่ต่อไป
