ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตั้งด่านรวบหนุ่มใหญ่ปืนโตกับพ่อค้ายาบ้า

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้อำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ธรรมศักดิ์ พลเดช, พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ปิยะพร เรียนสุทธิ์ สว. ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล.,ร.ต.อ.จักรพงษ์ นวลปาน รอง สว. ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล., ร.ต.ท.ฌานธร แสงวิรุณธร, ร.ต.ท.สมพร ทองเสน, ร.ต.ท.วิระศักดิ์ ดีทอง, ร.ต.ท.กอร์น ขุนบุญจันทร์, ร.ต.ต.ชาติชาย หวังข้อกลาง รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม
- นายเอกลักษณ์ฯ อายุ 39 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามควรแก่พฤติการณ์” และ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
- นายวิลาศฯ อายุ 52 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”, “เสพยาเสพติดให้โทษ
ประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีนโดยผิดกฎหมาย” และ “เป็นผู้ขับขี่รถขณะมีสารเสพติด ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ในร่างกายโดยผิดกฎหมาย” - น.ส.สุชนิสาฯ อายุ 22 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
สถานที่จับกุม ทล.4015 (แยกบ้านตาล) กม. 0-1 ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พบรถยนต์สีดำ ขับเข้ามาถึงจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตเห็นว่ามีชายฉกรรจ์นั่งมาในรถหลายคน มีลักษณะน่าสงสัยว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ในรถ จึงขอตรวจสอบ พบนายกฤษกรฯ เป็นผู้ขับขี่ และมีนายเอกลักษณ์ฯ ผู้ต้องหา นั่งคู่มากับคนขับรถ ผลการตรวจค้นในรถ พบอาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ ขนาด.357 และเครื่องกระสุนปืนเกือบ 50 นัด เนื่องจากเคยก่อคดีพยายามฆ่าผู้อื่น เมื่อปี 2564 และก่อคดีอีกมากมายทั้งทำร้ายร่างกายผู้อื่น บุกรุก ฯลฯ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีการลำเลียงขนยาเสพติดผ่าน จึงได้นำกำลังไปตั้งจุดตรวจ ได้พบรถยนต์สีดำ ขับเข้ามาถึงจุดตรวจ ซึ่งเป็นคันที่ได้รับแจ้ง พบนายวิลาศฯ เป็นผู้ขับขี่ โดยมี น.ส.สุชนิดาฯนั่งเบาะหน้าคู่มากับคนขับรถ เมื่อ น.ส.สุชนิดาฯ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีอาการพิรุธ พยายามซุกซ่อนสิ่งของบางอย่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจค้นภายในรถ พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ทั่วคันรถ รวมทั้งหมดเกือบ 6,000 เม็ดนอกจากนี้พบว่า ผู้ต้องหาเคยก่อคดีค้ายาเสพติดมาก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น จากการสอบถาม นายเอกลักษณ์ฯ ให้การว่า ก่อนจะเจอด่านตรวจตนเองและคนขับได้เดินทางกลับมาจากงานบวชญาติที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช กำลังจะเดินทางกลับบ้านพักที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช และรับว่าปืนกับกระสุนเป็นของตนเอง โดยได้รับอาวุธปืนมาจากกำนันชัย ให้มาป้องกันตัวเพราะกลัวว่าคู่อริจะมาแก้แค้น
จากการสอบถามนายวิลาศฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนมาซื้อยาบ้าในพื้นที่ จ.นครศรีฯ เพื่อนำไปจำหน่ายให้ลูกค้าที่ จ.กระบี่ โดยคนขายจะนำยาเสพติดมาวางไว้ที่บริเวณกองขยะ ตกลงซื้อขายกันในราคา 60,000 บาท ได้ยาบ้าจำนวน 6,000 เม็ด
จากการสอบถาม น.ส.สุชนิสาฯ ให้การปฏิเสธโดยชี้ว่า ยาบ้าเป็นของนายวิลาศฯ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.ปิยะพร เรียนสุทธ์ สว.ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล.โทร 092-5246966