หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม'เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร.+รอง ผบก.ชุมพร' ร้อง ก.ตร.ขอให้การแต่งตั้ง'นายพลสีกากีเป็นโมฆะ'อ้างขัดต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา 260

‘เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร.+รอง ผบก.ชุมพร’ ร้อง ก.ตร.ขอให้การแต่งตั้ง’นายพลสีกากีเป็นโมฆะ’อ้างขัดต่อ รัฐธรรมนูญ มาตรา 260

ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีรายงานว่า พ.ต.อ.พรพันธ์ ทิมขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้มีหนังสือ พิเศษ/2561 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2561 เรื่องร้องทุกข์การแต่งตั้งตามมติ ก.ตร.ถึงประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)โดยในหนังร้องทุกข์ดังกล่าวระบุว่า “คณะกรรม ก.ตร.ทุกท่านทราบดีแล้วว่า หลักการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามลำดับอาวุโสของสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับนี้เป็นการกำหนดไม่ถูกต้อง ประกอบกับในส่วนของตำรวจ มีการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดลำดับอาวุโสใว้โดยเฉพาะ และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ชุดปัจุบันนี้ก็ได้ใช้ในการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งข้าราชการตำรวจมาตลอด ย่อมทราบดีว่าการใช้หลักอาวุโสตามประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับนี้นั้นไม่ถูกต้อง ขัดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547,ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 89/2557และระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยการกำหนดลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจในการรักษาราชการแทน พ.ศ.2547 แต่คณะกรรมข้าราชการตำรวจตามข้างต้น ได้กระทำร่วมกันมีมติให้ข้าราชการตำรวจที่มิได้อยู่ในลำดับอาวุโสที่มีสิทธิ์ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นผู้ที่ได้รับเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น,ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงขึ้น ได้รับอัตราเงินเดือนสูงขึ้น,ได้เงินตำแหน่งสูงขึ้น,และทำให้เกิดผลร้ายและเสียหายต่อข้าราชการตำรวจที่อยู่ในลำดับอาวุโสที่มีสิทธิได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ก.ตร.ชุดดังกล่าวข้างต้น ไม่ได้มีมติเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ดังเช่น ข้าพเจ้าที่มีลำดับอาวุโสลำดับ รองผู้บังคับการลำดับที่ 41 จากประกาศลำดับอาวุโสระดับรองผู้บังคับการทั้งสิ้น 485 ลำดับ(485 นาย) โดยความเสียหายนั้นได้แก่ ข้าพเจ้าไม่ได้รับเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเป็นผู้บังคับการ จึงทำให้เสียสิทธิ์ตามข้างต้น ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้ มีตำแหน่งผู้บังคับว่าง 85 ตำแหน่ง(รวบรวมตามมติ ก.ตร.ถึง 2 ครั้งคือ เมื่อ 27 ก.ย.2561 และเมื่อ 2 ต.ค.2561) โดยข้าพเจ้าอยู่ในประกาศลำดับอาวุโสที่ 41 ซึ่งหากใช้หลักเกณฑ์หลักอาวุโสตามรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย มาตรา 260 วรรค 3 ประกอบหลักกฏหมายและระเบียบตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ข้าพเจ้าจึงขอร้องทุกข์ ต่อ คณะ ก.ตร.ดังนี้

1.ขอให้มติ ก.ตร.ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงระดับ ผู้บังคับการ ในวันที่ 27 กันยายน 2561 และในวันที่ 2 ตุลาคม 2561 เป็นโมฆะ(ยกเลิกมติ ก.ตร.ทั้ง 2 ครั้ง)

2.ขอให้ ก.ตร.มีมติใหม่ โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งให้ข้าพเจ้าและ รองผู้บังคับการ ผู้มีอาวุโสสูงสุดลงมาตามลำดับจนครบตำแหน่งว่าง(จากลำดับที่ 1 ถึง ลำดับที่ 85) “หนังสื่อร้องเรียนฉบับดังกล่าวระบุ”
ในขณะเดียวกันมีรายงานข่าวอีกว่า พล.ต.ต.ศรายุทธพูลธัญญะ รรท.ผบช.ตชด.ได้ทำหนังสือร้องทุกข์ ที่ 0012.43/0498 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2561 ถึง ผบ.ตร.,ก.ตร. โดยหนังสือดังกล่าวได้ระบุว่า :”ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.ถึง ผบก.วาระประจำปี 2561 โดย ก.ตร.ใช้หลักเกณฑ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 25 ก.ค.2561 ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 258 ง.(4)และมาตรา 260 โดยหลักเกณฑ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ใช้หลักอาวุโสร้อยละ 33 ส่วนที่เหลือร้อยละ 67 ไม่ได้ใช้หลักอาวุโส ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดใว้หลักเกณฑ์เดียว คือหลักอาวุโส

จึงมีความประสงค์ขอให้มติ ก.ตร.ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ รอง ผบ.ตร.ถึง ผบก.ในวันที่ 27 ก.ย.2561 และวันที่ 2 ตุลาคม 2561 เป็นโมฆะ และขอให้มีมติใหม่ โดยให้แต่งตั้งผู้ร้องทุกข์เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามหลักอาวุโสสูงสุดลงมาจนครบตำแหน่งว่าง”

สำหรับ พล.ต.ต.ศรายุทธ พูลธัญญะ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 36 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ ผบ.ตร.คนปัจุบัน เคยดำรงตำแหน่งเป็น รอง ผบช.ภ.1 ,รอง ผบช.ภ.7 ,รอง ผบช.ภ.8, โดยล่าสุด ถูกโยกมาดำรงตำแหน่ง รอง ผบช.ตชด


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img