“เท้ง” ขึ้นเชียงราย ติดตามแผนฟื้นฟู-แผนรับมือน้ำท่วม อึ้ง! เงินเยียวยายังไม่ถึงมือชาวบ้าน 15,000 ราย

68

ที่ จ.เชียงราย วันที่ 14 มี.ค. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมคณะ เดินทางไปยังอำเภอแม่สาย เพื่อรับฟัง และแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องแผนการปฏิบัติราชการตามนโยบายรัฐกับหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมทั้งได้ติดตามการฟื้นฟู เตรียมความพร้อมรับมือกับอุทกภัย โดยเขากล่าวว่าได้ร่วมประชุมกับส่วนราชการที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ รวมถึงเตรียมพร้อมรับมือกับอุทกภัย ในภาพรวมของจังหวัด โดยก่อนหน้านี้มีโอกาสเดินทางมาจังหวัดเชียงรายในหลายครั้ง และพรรคได้ตั้งกลุ่มอาสาสมัคร “ประชาชนอาสาล้างบ้าน” เพื่อช่วยเก็บกวาดฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนหลังเกิดเหตุอุทกภัยเมื่อกลางปี 2567 ที่ผ่านมา ครั้งนี้จึงมาติดตามการฟื้นฟู และการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาจากบ้านเรือนและพื้นที่ทำการเกษตร รวมถึงติดตามแผนการรับมือและป้องกันวิกฤตอุทกภัยในอนาคต

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือ และการฟื้นฟูสถานการณ์น้ำท่วมนั้นมี 4 ประเด็นปัญหาใหญ่ด้วยกัน ประเด็นแรก คือ อำเภอแม่สายแจ้งให้ทราบว่า เงินช่วยเหลือเยียวยารวม 135 ล้านบาท ยังมาไม่ถึงมือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะค่าล้างดินโคลน ที่ชาวบ้านเกือบ 15,000 คนยังรอเงินช่วยเหลือ ทั้งที่เวลาล่วงเลยมากว่า 6 เดือนแล้ว ขณะเดียวกัน พี่น้องเกษตรกรจำนวนมาก ก็ยังไม่ได้เงินช่วยเหลือ เพราะทางจังหวัดยังไม่ได้รับงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรอีก 197 ล้านบาท

ประเด็นที่สอง คือ แผนการรับมือน้ำท่วมในพื้นที่แม่สายปีนี้ การขุดลอกคลองแม่น้ำ การสร้างคันกั้นน้ำล่าช้ากว่าแผน และคาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งก็จะคาบเกี่ยวกับในช่วงหน้าฝน และอาจทำให้การทำงานติดขัด รวมไปถึงแผนระยะยาวที่จะคืนพื้นที่ริมตลิ่งให้แม่น้ำเพื่อเพิ่มการรับน้ำ และลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมฉับพลัน ยังมีปัญหาการเวนคืนที่ดิน และการรื้อถอนพื้นที่ ทำให้ยังไม่สามารถเริ่มต้นดำเนินการใด ๆ ได้ เพราะยังไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องของค่าเยียวยา และค่ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงการจัดเตรียมพื้นที่ใหม่ที่จะรองรับ

หัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวว่า ส่วนในอำเภอเมืองเชียงราย หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ดำเนินการขุดลอกอ่างเก็บน้ำ และลำน้ำ ไปส่วนหนึ่งตามงบประมาณที่มี และได้เสนอให้มีการตั้งสถานีโทรมาตรในพื้นที่ต้นน้ำกกให้เพิ่มขึ้น อีก 4 สถานี รวมถึงปรับปรุงระบบเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

ประเด็นที่สาม คือ แผนเผชิญเหตุและการรับมือต่างๆในพื้นที่ยังขาดประสิทธิภาพ เนื่องจากยังขาดเครื่องมืออุปกรณ์ และผู้เชี่ยวชาญต่างๆเพื่อรับมือกับสถานการณ์ จึงทำได้เพียงแค่การขอความช่วยเหลือจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นข้างเคียง หน่วยงานอื่นๆ และอาสาสมัครเพียงเท่านั้น ทำให้ยังไม่มีแผนรองรับที่เพียงพอ ทั้งนี้ทางแม่สายจึงเสนอให้มีศูนย์เครื่องจักร อุปกรณ์ สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เชียงราย ได้ให้ยืมใช้เพื่อรับมืออย่างรวดเร็วหากประสบเหตุ

และประเด็นสุดท้าย คือ การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหาย ไม่ว่าจะเป็นถนน สะพาน ลำเหมือง บ่อขยะ ซึ่งก็ยังไม่ได้รับงบประมาณ เช่นเดียวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ยกตัวอย่างจากการค้าชายแดนที่ตลาดสายลมจอยพบว่ามีความซบเซาเป็นอย่างมาก ร้านค้าต่าง ๆ น้อยลงส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์น้ำท่วมในแต่ละปี ผู้ประกอบการก็ไม่กล้าที่จะลงทุนในพื้นที่เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบ

“ความล่าช้าของการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย การฟื้นฟูเมืองแม่สาย และเชียงราย เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะผมได้เคยอภิปรายในสภาไปแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน ปีที่แล้วว่า รัฐบาลจะต้องดูแลไม่ให้ความเสียหายจากอุทกภัยกลายเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายทางด้านอื่น ๆ ตามมา โดยเฉพาะกระทบต่อรายได้และภาระการเงินของพี่น้องประชาชน ซึ่งผมและทีม สส. พรรคประชาชนจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหา และเตรียมการรับมือกับอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นอีก โดยเร็วที่สุด” นายณัฐพงษ์ กล่าว