นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค กล่าวถึงการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้ชื่อเรื่อง “ทำคลอดเชื่อหมอวรงค์ การเมืองเชื่อผม!!!” โดยมีเนื้อหาใจความว่า วันนี้ คุณหมอวรงค์ พูดหลายเรื่อง ไปไกลถึงขนาดจะเปลี่ยนอุดมการณ์ของพรรค ถ้าตนไม่ออกมาชี้แจง มรว.เสนีย์ ปราโมช คงมาเขกกะบาลตนเป็นแน่แท้ จึงขอชี้แจงพอสังเขป ในฐานะคนรักชอบกัน
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนโยบายสวัสดิการ ความจริงเรื่องนี้ในระยะหลังท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ เป็นคนพูดเรื่องนี้บ่อยมาก ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนท่านจะใช้คำว่า “สังคมสวัสดิการ”เพราะจะพูดว่า “รัฐสวัสดิการ”ยังไม่ได้ เพราะหากใช้คำว่ารัฐต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ท่านหัวหน้าจึงใช้คำว่า “ประชาธิปัตย์กำลังสร้างสังคมสวัสดิการ” พรรคประชาธิปัตย์ก็ยึดนโยบาย “สังคมสวัสดิการ” มาตลอดในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เช่น นโยบายเบี้ยยังชีพสูงอายุ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่สมัยท่านชวน หลีกภัย,สวัสดิการผู้ใช้แรงงาน นโยบายเรียนฟรี นโยบายด้านสุขภาพ นโยบายกองทุนการออมแห่งชาติ ฯลฯ เหล่านี้เป็นเรื่องที่เราทำแล้วและจะทำต่อไปในอีกหลายเรื่องด้วย
“การที่หมอวรงค์ ออกมาพูดเรื่องนี้ อาจทำให้คนเข้าใจผิดในนโยบายของพรรคในเรื่องสวัสดิการสังคม ผมว่าพรรคเราทำเยอะกว่าพรรคอื่นเสียอีก ส่วนใครจะเพิ่มนโยบายเรื่องใดเข้าไปเป็นสวัสดิการอีกนั่นก็ว่ากันไป ประการสำคัญ พรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์เป็นเสรีนิยมประชาธิปไตย เน้นการให้ความเคารพในเสียงข้างมากผ่านการเลือกตั้งที่เที่ยงตรง การเคารพสิทธิมนุษยชนความเท่าเทียมใช้หลักนิติธรรม ถ่วงดุลย์อำนาจ โปร่งใสและตรวจสอบได้” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนอุดมการณ์ไปสู่ระบอบอื่นซึ่งอาจเกิดจากความเข้าใจผิด หรือ ความอ่อนประสบการณ์ เช่น ระบอบประชาธิปไตยสวัสดิการ หรืออะไรทำนองนั้น จะค่อยๆกัดกร่อนความเข้มแข็งทางอุดมการณ์ของพรรคลง ผู้ที่จะเป็นผู้นำพรรคจึงต้องเข้าใจถึงแก่นของเรื่องนี้ คำว่า”สวัสดิการ” มิใช่เรื่องของ “ระบอบการปกครอง” แต่เป็นเรื่อง”นโยบาย” ระบอบคอมมิวนิสต์ ก็มีสวัสดิการ ระบอบเผด็จการก็มีสวัสดิการ ระบอบประชาธิปไตยก็มีสวัสดิการ ประการสำคัญ การทำให้สังคมกลายเป็น”รวยกระจุก จนกระจาย” เป็นเรื่องระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม แบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก หรือ เศรษฐกิจเสรีนิยมมากกว่า ไม่ใช่ระบอบการปกครองแบบเสรีนิยมประชาธิปไตยหรอก
“ถ้าเราแยกไม่ออกระหว่าง ระบอบการปกครอง กับ ระบอบเศรษฐกิจเราก็มั่วไปได้ทุกวันแหละ พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาก็อาจโวยวายว่า เราจะเปลี่ยนอุดมการณ์เป็น “เผด็จการสวัสดิการ” ก็ยุ่งเลย เรื่องความนิยมของหัวหน้าพรรค ผมก็ดูว่า ความนิยมของพรรคมิได้ลดลง คะแนนเราก็เพิ่มขึ้นทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้ง เพียงแต่เรายังไม่แรงพอที่จะเอาชนะได้ ก็ต้องเข้าใจว่าเรากำลังสู้อยู่กับอะไร ขนาดเราไม่มีม.44 อยู่ในมือ เราสู้ได้ขนาดนี้ แล้วคนที่เขามีม.44 อยู่ในมือ เอาเข้าจริงๆ เขาก็ยังทำไม่ได้เท่าเราเลยนะ เรื่องการเปลี่ยนส.ส. เพื่อเอาคนใหม่มาสมัครแทนคนเก่า พรรคก็ทำมาตลอด เราทำยิ่งกว่าการทำไพรมารี่เสียอีก เพราะการทำไพรมารี่เป็นการทำเฉพาะในสมาชิกของพรรค แต่เราทำถึงขนาดจ้างมหาวิทยาลัยมาทำโพลล์สำรวจความนิยมของผู้สมัครเลยนะครับ เราไปไกลกว่านั้นแล้วครับ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
*ทำคลอดเชื่อหมอวรงค์ การเมืองเชื่อผม!!!-วันนี้ คุณหมอวรงค์ พูดหลายเรื่อง ไปไกลถึงขนาดจะเปลี่ยนอุดมการณ์ของพรรค…
โพสต์โดย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม 2018