“กัณวีร์” ชี้ กรณีอุยกูร์และคอลเซ็นเตอร์ ทำการทูตไทยอยู่ในอุ้งมือจีนเรียบร้อย

302

ที่รัฐสภา วันที่ 3 มี.ค.68 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายขื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า ในที่สุดสิ่งที่ตนเคยกังวลก็เป็นจริง ไทยกับความเพลี่ยงพล้ำทางความมั่นคงและการทูตต่อจีน ตนเคยเขียนไว้ตอนที่จีนกำลังจะก้าวล่วงเข้ามามีอิทธิพลในการสร้างสันติภาพในเมียนมา ว่าไทยต้องชิงโอกาสตรงนี้เสียเนื่องจากภูมิรัฐศาสตร์ของไทยกับเมียนมา หากจีนเข้ามาได้ จะเป็นอวสานของการเป็นผู้นำของไทยในภูมิภาคตัวเอง โดยเขาย้ำว่า ส่วนตัวไม่ได้เกลียดประเทศจีน แต่เป็นมุมมองในบทบาทเวทีระหว่างประเทศที่ไทยต้องมีความพยายามอย่างมากในการทะลุทะลวงการครอบงำและอิทธิพลอันทรงพลังของจีนในอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พื้นทวีป (Mainland Southeast Asia)

นายกัณวีร์ กล่าวว่า จีนใช้โอกาสการเข้ามาปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์และกลุ่มค้ามนุษย์ในเมียนมา ที่ต้องใช้ทางผ่านจากไทย และกอปรกับไทยที่มีความอ่อนแอและศักยภาพในการจัดการเรื่องนี้ที่ต้องใช้ความสามารถผ่านแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไทยแย่ที่สุดคือการต่างประเทศที่ขาดประสิทธิภาพ

“ครั้งนี้จีนชนะขาดลอย เนื่องจากอิทธิพลเหนือไทยบนความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความมั่นคง และการทูต พอไทยเปิดประตูทุกบาน จึงทำให้ขาดการดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบเป็นกลางและรักษาสมดุลระหว่างมหาอำนาจ โดยปล่อยให้จีนทั้งหมด” นายกัณวีร์ กล่าวและว่า ตนเองเชื่อว่า ครั้งนี้ที่จีนเข้ามา เขาวางแนวทางการแทรกแซงทางการเมืองผ่านกลไกข่าวกรอง ตำรวจ และทหารจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“สัญญาณการครอบครองไทยมันชัดมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะน่าจะเพราะความอ่อนด้อยของผู้นำรัฐบาล และ รมว.กต. ที่เป็นแต่ผู้ตาม ไม่สามารถสร้างความร่วมมือกับมหาอำนาจอื่น ๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาจีนเพียงฝ่ายเดียว และไม่ยอมมองแบบก้าวหน้าโดยการพัฒนาอำนาจทางการเมืองของตนในเวทีภูมิภาคตัวเอง อย่างอาเซียน BIMSTEC ACMEC ฯลฯ เพื่อให้ไทยมีจุดยืนที่เข้มแข็ง”

นายกัณวีร์ กล่าวว่า ปัจจุบันจีนจะกดปุ่มไหนในไทยก็ทำได้ จะเอาอุยกูร์ 40 คนกลับก็ทำได้ง่ายๆ หากอยากจะเพิ่มอิทธิพลขึ้นอีกหน่อยก็คงสลัดเงิน 1 ล้านล้านบาทมาทำแลนด์บริดจ์ แล้วให้ไทยอยู่ในเส้นทางสายไหม สุดท้ายไทยติดหนี้ตามการทูตแบบขุดหลุมพราง (Debt Trap Diplomacy) แล้วเราก็สูญเสียความเป็นเอกภาพการกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจ เพราะหนี้ที่ต้องชำระต่อไป

สส.พรรคเป็นธรรม ตั้งคำถามว่า จะรับมืออย่างไงหากนโยบายการต่างประเทศเราอ่อนแอ หรือจริงๆ แล้วเราไม่มีนโยบายการต่างประเทศ  ซึ่งเขาขอให้รัฐบาลไทยรับมืออย่างมีกลยุทธ์และรอบคอบ ทั้งเศรษฐกิจ อำนาจการเมือง การต่อรองทางความมั่นคงในภูมิภาค อย่าลืมเรื่องเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งปกป้องวัฒนธรรมของเราผ่านการมีส่วนร่วมของคนไทย นี่คือสิ่งที่จะทำให้ไทยรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติไว้ได้ในยุคที่จีนมีบทบาทสำคัญที่เหยียบจมูกเราจนหายใจไม่ออก และจีนนับวันจะขยายอิทธิพลบนเวทีโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

”ถึงเราจะเป็นประเทศเล็ก (กว่าจีน) แต่ไม่ได้ด้อยกว่าเขา นโยบายต่างประเทศที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติต้องชัด และพร้อมปกป้องประเทศในยามที่เราถูกล้อมไว้ทุกด้านครับ“

นายกัณวีร์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมา จีนต้องการใช้ชีวิตชาวอุยกูร์ 40 คน เป็นตัวประกัน  เพื่อเอากลับไปสร้างภาพลักษณ์ว่าไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ เพื่อเอาไปตอบโต้ประเทศตะวันตก ที่กล่าวหาเรื่องนี้มาตลอด ไทยจึงตกเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว