ที่ สภ.เมืองสระบุรี พล.ต.ต.อําพล บัวรับพร รรท.ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธ์ิ ผบก.ภ.จว.สระบุรีพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 8 คนนายทวีศักดิ์ เทวา อายุ 34 ปีอยู่บ้าน เลขท่ี 59 ถ.เทศบาล 1 ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จว.สระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรีที่ 370/2561 เคยต้องโทษข้อหาร่วมกันทําร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตายโทษจําคุก 2 ปีเมื่อปี 2546 นายกฤษฎา สายบุตร อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่ 199/15 ถ.พิชัยรณรงค์สงคราม ซ.1 ต. ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จว.สระบุรี นายบุญญฤทธิ์ ทองกล่ำ อายุ 36 ปีอยู่บ้านเลขท่ี 53/43 ถ.พหลโยธิน ซ.7 ต.ปํากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จว.สระบุรี เคยต้องโทษ ข้อหาทําร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสเมื่อปี 2556 และปี 2559 นายสมศักดิ์ บุตทชน อายุ 30 ปีอยู่บ้านเลขที่ 59 ถ.เทศบาล 1 ต.ปากเพรียวอ.เมืองสระบุรี จว.สระบุรี นายกิติพงษ์ อุดมกะสก อายุ 34 ปีอยู่บ้านเลขที่ 6/7 ม.2 ต.ตลิ่งชัน อ.เมืองสระบุรี จว.สระบุรี นายพิฆเนศ ชูศร อายุ 21 ปีอยู่บ้านเลขที่ 39/6 ถ.เทศบาล 1 ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จว.สระบุรี นายปุ้น(นามสมมติ)อายุ 15 ปี นายเก้า(นามสมมติ)อายุ 15 ปี
พล.ต.ต.อําพล กล่าว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ต.ค.61 เวลาประมาณ 09.00 น.ได้เกิดเหตุมีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 20 คนได้ใช้ท่อนไม้เป็นอาวุธบุกมารุมทำร้ายนายสังเวียน เพชรเขียวผู้ดูแลตลาดเจริญทรัพย์(ตลาดริมทางรถไฟ สระบุรี)กับพวกซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาดจนได้รับบาดเจ็บ สาหัสต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ทําการสืบสวนติดตามตัวคนร้ายพร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อมจนทราบว่านาย กฤษฎาพร้อมกับพวกอยู่ในกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวจึงได้ทําการขออนุมัติศาลออกหมายจับและติดตามตัวมาดําเนินคดี
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าจากการสอบสวน นายกฤษฎาได้ให้การรับสารภาพว่าเมื่อวันที่ 17 ต.ค.61 ตนกับพรรคพวกได้รับการติดต่อจากนายทวีศักดิ์ให้ตนกับพรรคพวกมารวมกลุ่มกันก่อเหตุในวันที่ 18 ต.ค.หลังจากทําการก่อเหตุดังกล่าวแล้วตนและพรรคพวกได้แยกย้ายกันหลบหนีจนกระทั่งมาเจ้าหน้าที่ตํารวจจับกุมได้พร้อมนายทวีศักดิ์ ดังกล่าว
สำหรับในส่วนพวกที่ยังหลบหนีขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองสระบุรีได้เร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ร่วมกระทําความผิดที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป