ผบช.ภ.1 เร่งสนอง นโยบาย สร.1 และข้อสั่งการ ผบ.ตร. เร่งปราบยาฯ ตรวจเจอแหล่งพักยาเสพติด แอบซุกโกดังเก็บสินค้า ผงะ..!!! เจอของกลางเพียบ

202

เดินหน้าเชิงรุก เปิดอบรมโครงการมีส่วนร่วมภาคประชาชน พร้อมสั่งตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญพื้นที่ในสังกัด ภ.1

วันที่ 19 ก.พ.68 พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ในฐานะผู้รับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และงานแถลงข่าวของตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า “ตำรวจภูธร ภาค 1 ดูแลประชาชนในทุกๆวันไม่มีวันหยุด สนองนโยบายของ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ทางด้านการสืบสวนปราบปรามและการป้องกันอาชญากรรมที่เกิดขึ้นตลอดจนงานภาพลักษณ์ที่ดีของตำรวจที่ดูแลช่วยเหลือประชาชนและสังคม เสนอคำว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เป็นตำรวจของประชาชน”โดยได้จัดการอบรมโครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล

เมื่อวันที่ 18 ก.พ.68 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมโครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล ระหว่างวันที่ 18 – 19 ก.พ. 68 จำนวน 2 รุ่น รุ่นละ 650 นาย รวม 1,300 นาย โดยมี นายประพันธ์ ตรีบุปผา รอง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา, พล.ต.ต.นฤนาถ พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา, รอง ผบก.ฯ, ผกก.ฯ, รอง ผกก.ป.ฯ ในสังกัด, ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน จำนวน 650 คน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ หอประชุมพระพิรุณระลึกโปรดเกล้าฯ มหาวิทยาลัยเทคโยโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา
.

เวลาต่อมา พล.ต.ต.โชคชัย ตรวจเยี่ยมสายตรวจ สภ.ผักไห่ และ สภ.บางบาลโดยได้แนะแนวทางในการปฏิบัติงาน กำชับให้ปฏิบัติตามนโยบายของ ตร. และ ภ.1 โดยเคร่งครัด พร้อมมอบรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่สภ.ผักไห่- มอบรางวัลให้แก่สายตรวจที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย 3 คดี นำวัตถุดิบมาสนับสนุนตาม “โครงการอาหารกลางวันสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1” เลี้ยงอาหารกลางวันแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชมการสาธิตฝึกทบทวนการระงับเหตุบุคคลคลุ้มคลั่ง โดยมี พ.ต.ท.กรกฤต ภูติยา รรท.รอง ผกก.ป.สภ.ผักไห่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ สภ.ผักไห่
.
จากนั้นได้เดินทางไป สภ.บางบาล- มอบรางวัลให้แก่สายตรวจที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย 3 คดี และชมการสาธิตฝึกทบทวนการระงับเหตุบุคคลคลุ้มคลั่ง โดยมี พ.ต.อ.สรรเสริญ กรีอารี ผกก.สภ.บางบาล, พ.ต.ท.ชนิสสร์ กระจ่างเนตร รอง ผกก.ปฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ สภ.บางบาล
.

พล.ต.ต.ภัคพงศ์ ยังได้เปิดเผยอีกว่า จากข้อสั่งการของ พล.ต.ท.สุรพล ให้ตำรวจ ภ.1 เร่งนโยบายรัฐบาลและ ผบ.ตร. ในการปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ ซึ่งพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 นับเป็นพื้นที่ตอนในของประเทศ ซึ่งมักถูกใช้เป็นแหล่งพักยาเสพติดของผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ก่อนที่จะนำส่งไปยังส่วนต่างๆ ของประเทศไทย นั้น

ผบช.ภ.1 จึงได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวัง กวดขัน จับกุม ตรวจตราทุกพื้นที่รับผิดชอบ ไม่ให้ตกเป็นแหล่งพักยาเสพติดโดยเด็ดขาด ซึ่งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีการจับกุมยาเสพติดจำนวน 900,000 เม็ด ในพื้นที่ จว.อ่างทอง เชื่อมต่อ จว.สุพรรณบุรี และจับกุมยาเสพติด ยาบ้ากว่า 500,000 เม็ด ยาไอซ์กว่า 300 กก. ในพื้นที่ จว.นนทบุรี จนนำไปสู่การจับกุม


โดยเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 68 เวลา 22.00 น. ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รองผบช.ภ.1พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1
พล.ต.ต.กิตติ สกุณี ผบก.ภ.จว.อ่างทอง
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิไล ผบก.สส.บช.น.พ.ต.อ.พจนกร กัญจินะ ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง

สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับชุดสืบสวนจังหวัดอยุธยา สืบสวนสอบสวนทราบว่า ที่เกิดเหตุ หมู่ 3 ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จว.อ่างทอง มีการลำเลียงยาเสพติดเป็นจำนวนมากมาส่งไว้บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นโกดังเก็บสินค้าพืชผลทางการเกษตร โดยบรรจุในถุงดำปะปนกับสินค้าเกษตร (ขิง) สืบสวนทราบว่ามีชายอายุประมาณ 18-25 ปี จำนวน 4 คน ใช้รถมอเตอร์ไซค์ 2 คัน ลำเลียงส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ ชุดจับกุมจึงติดตามสืบสวนมาโดยตลอด


จนกระทั่งวันที่ 18 ก.พ. 68 เวลา 22.00 น. ชายจำนวน 4 คน เข้ามาในบริเวณโกดังที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงแสดงตัวและขอตรวจสอบ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน วิ่งหนี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงวิ่งติดตามจับกุมและนำตัวมาที่โกดังนั้น


การสืบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การว่าเดินทางมาจากจังหวัดตาก โดยมีนายจ้างไม่ทราบชื่อ ให้มาคอยรับของที่ส่งมาและนำเงินมาจ่ายค่าเช่าให้กับนายชัยรัตน์ฯ เจ้าของบ้านและโกดังที่ให้เช่า การตรวจสอบเบื้องต้นพบถุงดำจำนวน 175 ถุง ปะปนกับขิง มียาเสพติด (ยาบ้า) ประมาณ 8,000,000 – 9,000,000 เม็ด รายละเอียดอื่นๆ จะดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อไป