บช.ปส. ขานรับนโยบายรัฐบาล “Seal Stop Safe”เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “กวาดล้างเครือข่ายคาวบอยบ่อแก้ว”

179

​วันที่ 30 ม.ค.68 นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานพิธีเปิดปฏิบัติการ สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. หัวหน้าส่วนราชการฝ่าย ปกครอง ทหาร ตำรวจ ร่วมผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ภายใต้กรอบแนวคิด Seal พื้นที่ชายแดน Stop หยุดวงจรยาเสพติดอาชญากรรมชายแดน Safe พื้นที่ปลอดภัย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ขานรับนโนยบายรัฐบาล สั่งการให้
ศอ.ปส.ตร. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร./
รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. บช.ปส. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว  พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์  พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3ได้บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ นบ.ยส.35 พล.ท.กาจน์ กอรี รอง ผบ.นบ.ยส.35, ภ.5 พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5, ตชด.ภาค 3 พล.ต.ต.วรพัฒน์ บุญมา ผบก.ตชด.ภาค 3, สำนักงาน ปปส.ภาค 5นายธันวา ผุดผ่อง ผอ.ปปส.ภาค 5, สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส., สำนักงาน ปปง. และฝ่ายปกครองในพื้นที่ นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “กวาดล้างเครือข่ายคาวบอยบ่อแก้ว” ในวันที่ 12 ก.พ.68 เพื่อขยายผลจับกุมและยึดอายัดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66 บก.ปส.3 ได้จับกุมผู้ต้องหา 4 คน พร้อมไอซ์ 999 กก. และคีตามีน 1,200 กก. บริเวณท่าเทียบเรือ อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา และวันที่ 10 ส.ค.67 จับกุมผู้ต้องหา 10 คน พร้อมไอซ์ 1,500 กก. ใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี กระทั่งสามารถขยายผลจนทราบถึงกลุ่มที่ลำเลียงยาเสพติดพื้นที่ชายแดนซึ่งลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้กับกลุ่มที่ถูกจับกุมจึงได้เฝ้าระวังพฤติการณ์เรื่อยมา

กระทั่ง เมื่อวันที่ 21 ม.ค.68ได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 600 กก.จากการสืบสวนขยายผลมีผู้ร่วมลำเลียงยาเสพติดกับผู้ต้องหาและยังไม่ถูกจับกุม โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวทำหน้าที่เป็นกลุ่มผู้สั่งการว่าจ้างและขับรถนำทางคุ้มกันการลำเลียงยาเสพติด และจากการตรวจสอบทรัพย์สินกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาแทบไม่ถือครองทรัพย์สินเลย โดยจะใช้กลุ่มเครือญาติถือครองทรัพย์สินแทน จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้นำเงินจากการลำเลียงยาเสพติดไปฟอกเงินในธุรกิจประเภทบริษัทอสังหาริมทรัพย์ โดยให้กลุ่มเครือญาติเป็นนอมินี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับ 9 หมายจับและเปิดปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้นฯ จำนวน 30 จุดตรวจค้น ในพื้นที่ จว.เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, พะเยา และหนองคาย โดยมีผลการปฏิบัติ ดังนี้


​1. สามารถขอศาลออกหมายจับ จำนวน 9 หมาย (ผู้ต้องหา 8 คน)
​2. ตรวจยึดทรัพย์สิน จำนวน 45 รายการ
​​2.1 บ้านพร้อมที่ดิน  10  รายการ​มูลค่าประมาณ​​40,000,000​บาท
​​2.2 ที่ดิน  18​แปลง​​​มูลค่าประมาณ​​54,000,000​บาท
​​2.3 สวนลำไย 70 ไร่ 1 แปลง​ ​มูลค่าประมาณ​​17,500,000​บาท
​​2.4 รถยนต์​11  คัน​​มูลค่าประมาณ​​6,600,000​บาท
​​2.5 รถจักรยานยนต์​5  คัน​​มูลค่าประมาณ​​200,000​บาท รวมมูลค่าตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดมูลค่าประมาณ 118,300,000 บาท

​บช.ปส. ได้ประสานการปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ในการ “Seal Stop Safe”อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งมีการทำงานในหลายมิติ ทั้งการลาดตระเวน สกัดกั้นตามแนวชายแดน การเฝ้าระวังบุคคลเฝ้าระวังในพื้นที่ชายแดน ขยายผลกลุ่มเครือข่ายที่อยู่พื้นที่ชั้นใน รวมถึงการใช้ เทคโนโลยีที่ทันสมัย(ด่านตรวจยานพาหนะ X-RAYS ) เข้ามาช่วยในการทำงาน เพื่อหยุดยั้ง สกัดกั้น ปราบปราม ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ตลอดจนมาตรการยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญและเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องให้สิ้นซาก เพื่อความผาสุกของประชาชน