“เผ่าภูมิ” ชี้ “เงินหมื่นเฟส1” ทั่วถึง ตรงเป้า กระตุ้นเศรษฐกิจ ลดเหลื่อมล้ำ

492

ที่กระทรวงการคลัง วันที่ 8 ก.พ. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง ผลโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 หรือ เงินหมื่น เฟส 1 ว่า จากการประมวลของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า  เงินกระจายถูกฝาถูกตัว กล่าวคือ จังหวัดที่มีสัดส่วนของผู้ได้รับเงินสูง คือ จังหวัดยากจน มี GPP per Capita หรือผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัวต่ำ ภูมิภาคที่รับเงินมากอยู่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และกลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งทำให้ภูมิภาคเหล่านี้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมากที่สุด ขณะเดียวกันเงินกระจายทั่วถึงทุกพื้นที่ ครอบคลุมครบทุกตำบลทั่วประเทศไทย ไม่มีตำบลใดเลยที่ไม่ได้รับเงิน

รมช.คลังกล่าวว่า นอกจากนี้ เงินพุ่งสู่ร้านเล็ก ร้านในชุมชน เพราะร้อยละ 68 นำเงินไปใช้จ่ายในร้านค้าชุมชน/ร้านขายของชำ ร้านหาบเร่แผงลอยทั่วไป/ร้านค้าในตลาด ร้อยละ 30 นำไปใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อและ Modern Trade และที่เหลืออีกร้อยละ 2 ใช้จ่ายในร้านอื่นๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าการเกษตร ร้านออนไลน์ เป็นต้น และ ร้อยละ 82 ใช้จ่ายเงินหมดภายใน 3 เดือน ร้อยละ 21ใช้หมดภายใน 1 เดือน และ ร้อยละ 61 ใช้หมดภายใน 1-3 เดือน

นายเผ่าภูมิกล่าวว่า โครงการเงินหมื่นยังทำให้ตัวชี้วัดเศรษฐกิจดีขึ้น โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 56.9 ในไตรมาสที่ 4 สูงขึ้นกว่าไตรมาสที่ 3 ที่ระดับ 56.5 ดัชนีความเชื่อมั่น MSMEs ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 53.0 ในไตรมาสที่ 4 จากระดับ 49.6 ในไตรมาสที่ 3 ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาคปรับตัวดีขึ้นในหลายภูมิภาค การท่องเที่ยว การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (หักนำเข้า หักเงินเฟ้อ) และรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้น โดยตัวชี้วัด ศก. ที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะเดือน ต.ค. ที่เงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจเต็มเดือน

ยิ่งไปกว่านั้น ยังช่วยลดเหลื่อมล้ำเร็วขึ้น 3 ปี จากการศึกษาดัชนี GINI ซึ่งใช้วัดความเหลื่อมล้ำ (หากลดลงแปลว่ามีความเท่าเทียมเพิ่มขึ้น) ของกระทรวงการคลังพบว่า พบว่าช่วยลดระดับดัชนี GINI ได้ 0.01 จุด ทั้งดัชนี GINI ด้านรายได้ และดัชนี GINI ด้านรายจ่าย กล่าวคือ ลดระดับความเหลื่อมล้ำลงได้ และหากเปรียบกับกรณีที่ไม่มีโครงการนี้ การที่ดัชนี GINI ลดลงได้ 0.01 จุดดังกล่าว มักใช้เวลานานถึง 3 ปี อ้างอิงตามแนวโน้มการพัฒนาการเศรษฐกิจในอดีต กล่าวคือ โครงการนี้ร่นระยะเวลาลดความเหลื่อมล้ำประเทศเร็วขึ้น 3 ปี