หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม'นายกฯ สมยศ' ปิดศูนย์ฝึกฟุตบอลหนองจอกถาวร เหตุเป็นที่ตาบอด

‘นายกฯ สมยศ’ ปิดศูนย์ฝึกฟุตบอลหนองจอกถาวร เหตุเป็นที่ตาบอด

พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศ ไทยฯ เปิดแถลงข่าวปิดศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก อย่างถาวรที่ห้อง ออดิโธเรียม ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย

พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าว่า “วันนี้การประชุมแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างสโมสร สมาชิกกับสมาคมฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลายสิ่งหลายอย่างก็ทำมาเป็นประจำทุกเดือน

นอกจากประชุมกับสโมสร ไทยลีก 1 และ 2 ผมมีความต้องการแจ้งให้สโมสรในไทยลีก 1 และ ไทยลีก 2 รวมถึงสโมสรสมาชิก ทั่วประเทศ ให้ทราบว่า สมาคมฯ ได้ประกาศปิดศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก อย่างถาวร

พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง

สาเหตุที่ สมาคมฯ ต้องประกาศปิดศูนย์ฝึกกีฬาดังกล่าว เนื่องจาก จากการตรวจสอบเป็นระยะเวลาหนึ่ง ได้พบว่า พื้นที่ดินดังกล่าว ไม่มีถนนเข้า ที่ถูกกฎหมาย หมายความว่า ที่ดิน ที่ได้รับการมอบหรือสร้างเป็นศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอกนั้น แท้ที่จริงแล้ว ไม่มีทางเข้า คือเป็นที่ตาบอด

ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติหนองจอก ที่ตั้งอยู่ที่ ซอยมิตรไมตรี 6/3 (ซอยนันทวี 3) แขวง หนองจอก เขต หนองจอก จังหวัด กรุงเทพมหานคร สถานที่ดังกล่าวประกอบไปด้วย อาคารศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ และอาคารสำนักงานของสมาคมฯ สนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน (หญ้าเทียม) 1 สนาม ตั้งอยู่บนที่ดินของสมาคมที่ได้รับการยกให้จากคุณวรวีร์ มะกูดี เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 มีเนื้อที่รวมประมาณ 15 ไร่ ซึ่งที่ดินที่คุณวรวีร์ ยกให้แก่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ นั้น คุณวรวีร์ ได้แบ่งแยกมาจากที่ดินของตนเอง เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551

โดย อาคารศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ และอาคารสำนักงานสมาคม ถูกปลูกสร้างบนที่ดิน ที่ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ การเข้าออกอาคารศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ และอาคารสำนักงานของสมาคม ต้องผ่านถนนคอนกรีตบนที่ดินของคุณวรวีร์ มะกูดี เท่านั้น

เดือนมกราคม 2561 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ทำหนังสือไปถึง คุณวรวีร์ มะกูดี เพื่อขอให้คุณวรวีร์ จดทะเบียนทางจำเป็น หรือ ภาระจำยอม ที่ดินส่วนที่เป็นถนนคอนกรีต ภายใน 60 วัน นับแต่ได้รับหนังสือ เพื่อให้เป็นทางเข้าออกแก่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ

สมาคมฯ จึงจำเป็นต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดมีนบุรี เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษา ให้ถนนคอนกรีตเป็น “ทางจำเป็น” หรือ “ภาระจำยอม” สำหรับสมาคมใช้เป็นทางเข้าออก เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.1978/2561 และศาลนัดชี้สองสถาน วันที่ 21 มกราคม 2562 โดยได้มีการปิดหมายศาล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561

ในช่วงที่ผมสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมฯ ผมได้ประกาศนโยบายชัดเจนว่า ผมจะเข้ามาปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข การบริหารงานภายในสมาคมฯ ซึ่งมีปัญหามาโดยตลอด ตลอดจนแก้ไขสิ่งที่ไม่ถูกต้องในสมาคมฯ ให้ถูกต้องในทุกกรณี

เวลาผ่านมาสองปี ผมถูกตำหนิต่อว่าจากแฟนบอลและสื่อมวลชน ว่าไม่มีการดำเนินการใด ๆ ปล่อยปละละเลย หรืออาจจะเป็นการสมยอม เรื่องคดีความ การฟ้องร้องมันมีเงื่อนเวลา อย่างที่เห็นว่าการแจ้ง การปิดหมาย ต้องรอเวลา ตามกฎหมายทั้งสิ้น

ตอนนี้ผมได้ทำในสิ่งที่รักษาผลประโยชน์ของสมาคมฯ รักษาสิทธิ์ให้กับสโมสรสมาชิก และ คนไทย นี่คือเรื่องแรกที่อยากจะชี้แจง

พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง

* หลักกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

หลักมาตรา 1349 ที่ดินที่ถูกล้อมจากที่ดินแปลงอื่นจนไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ เจ้าของที่ดินแปลงที่ถูกล้อมสามารถที่จะผ่านที่ดินแปลงที่ล้อมอยู่ ออกสู่ทางสาธารณะได้

หลักมาตรา 1350 ถ้าการแบ่งที่ดินนั้น ทำให้ที่ดินอีกแปลงไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ เจ้าของที่ดินแปลงที่ไม่มีทางออก สามารถผ่านที่ดินแปลงเดิมก่อนที่จะแบ่งแยก เพื่อออกสู่ทางสาธารณะได้ และไม่ต้องเสียค่าทดแทน
“พล.ต.อ.ดร.สมยศ กล่าว”

https://www.youtube.com/watch?v=zXHf7zUzKjE


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img