ตร.ต้องใช้โอกาสช่วงแต่งตั้ง”รอง ผบก.-สว.”จัดแถว ตร.คุมแนวชายแดนใหม่ ปราบ-สกัด”แก๊งคอลเซ็นเตอร์ “

996


             ถ้ามองภัยคุกคามทางอาชญากรรม ถือว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นปัญหาใหญ่ของไทย แม้แต่นายทักษิณ ชินวัตร พ่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญสูง เพราะเกือบทุกเวทีที่ปราศรัยหรือปาฐกถา จะพูดถึงการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บางเวทีถึงขั้นประกาศว่าต้องปราบให้หมดภายในปี 2568

            สอดรับกับฟากรัฐบาลโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)เสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ยกระดับการปราบปรามให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ และได้เจรจากับลาว กัมพูชาและเมียนมา เพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน

      จัดว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลจะต้องเร่งจัดการ ถ้าติดตามข่าวพบว่าฐานมั่นของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ในประเทศเมียนมา และกัมพูชาการปราบปรามให้บรรลุผลคงทำได้อยาก ถ้ารัฐบาลทั้งสองประเทศไม่ให้ความร่วมมือ เพราะผลประโยชน์ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเคนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐทั้งสองประเทศ มีจำนวนมหาศาล และส่งถึงระดับบิ๊กรัฐบาลของประเทศนั้นๆด้วย

          ซึ่งในแวดวงเจ้าหน้าที่รัฐไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนกัมพูชา ต่างทราบกันดีว่าในอดีตที่ตำรวจกัมพูชา จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งให้ตำรวจไทยเพราะเคลียร์ผลประโยชน์ให้น้อยหรือส่งไม่ถึงระดับบิ๊ก ขณะที่ตำรวจไทยไม่น้อยหน้ายึดแนวทางเดียวกับตำรวจกัมพูชา ทำให้บิ๊กตำรวจไซเบอร์ยุคนั้นปากมันไปตามๆกัน

        ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังคงดำรงอยู่ถึงปัจจุบันหรือไม่สุดจะคาดเดา แต่มีปรากฏการณ์ที่เจ้าหน้าที่ไทยทั้งตำรวจและทหารช่วยเหลือนายหวังซิงหรือซิงซิง นักแสดงชาวจีน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไปทำงานที่ฝั่งพม่า และการช่วยเหลือนายหยาง เจ๋อ ฉี นายแบบชาวจีนที่หายตัวไปอยู่ฝั่งพม่าเกือบครึ่งเดือน เชื่อว่าเป็นการช่วยเหลือวิธีพิเศษหรือแบบใต้ดิน เพราะถ้าเป็นทางการคงจะช่วยเหลือเหยื่อคนอื่นๆกลับมาด้วยแล้ว

         ยิ่งมีการแชร์คลิปถึงความโหดร้ายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมียวดี ฝั่งพม่า มีทั้งแก้ผ้าทุบตี รุมซ้อมอย่างโหดร้าย พอที่จะสะท้อนให้เห็นว่าการช่วยเหลือเหยื่อจะช่วยเฉพาะที่ตกเป็นข่าวเท่านั้น

          จากพฤติกรรมดังกล่าวให้อดนึกถึงเหตุการณ์ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566  มีข่าวสะพัดผ่านสื่อออนไลน์ว่า พ.อ.หม่องชิตตู่ ผู้บัญชาการควบคุมพื้นที่ 7 บ้านส่วนโก๊กไก่ รัฐกะเหรี่ยง ด้านตรงข้าม บ้านวังแก้ว หมู่ที่ 4 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด และบ้านวังผา หมู่ที่ 4 ต.แม่เจาะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก ประกาศปิดชายแดนในเขตพื้นที่รับผิดชอบด้านทิศเหนือ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง เพราะไม่พอใจตำรวจไทยข้ามไปเรียกเก็บผลประโยชน์

    ข่าวระบุ พ.ต.อ.นายหนึ่งจากฝั่งไทย ส่ง พ.ต.ท. สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(บก.ภ.จว.)ตากพร้อมลูกน้อง 10 นาย เข้าไปบริเวณช่องทางท่าข้ามธรรมชาติ ตรงข้ามบ้านวังผา ต.แม่จะเรา เรียกเก็บผลประโยชน์ในอัตราที่สูงขึ้น จากพื้นที่ที่ชาวจีนลงทุนเปิดบ่อนคาสิโนและสถานบันเทิง ที่สำคัญคือห้ามต่อรอง โดยอ้างว่าเป็นโยบายของผู้บังคับบัญชาระดับสูง

    หลังปรากฏเป็นข่าวผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6(ผบช.ภ.6)มอบให้ พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมสิริ รักษาการรองผบช.ภ.6 เป็นประธานสอบฯ ขีดเส้น 7 วัน ผลออกมาอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะไม่ได้แถลงผลให้ทราบอย่างเป็นทางการ

      ที่”ประดู่แดง”ยกตัวอย่างประเด็นต่างๆมานั้น เพื่อสื่อให้เห็นว่าการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำได้อยากจริงๆ ถ้ารัฐบาลเมียมาและกัมพูชา ไม่ช่วยอย่างจริงจัง ที่สำคัญตำรวจไทยที่คุมพื้นทีชายแดนทั้งสองเมียนมาและกัมพูชา อยู่กันแบบไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่

      ถ้ามองถึงบทบาทการป้องกันและปราบปรามห้วงเวลานี้ตำรวจคือตัวหลักสำคัญ จะปราบปรามแบบหวังผลร้อยเปอร์เซ็นต์คงลำบาก เพราะเป็นปัญหาระดับประเทศ รัฐบาลเท่านั้นจะต้องเป็นแม่งานใหญ่ ตามที่นายประเสริฐ เสนอ แต่กว่าถึงเวลาที่จะปราบปรามแบบเต็มรูปแบบคงต้องใช้เวลา

      ดังนั้นห้วงเวลานี้การป้องกัน เป็นแนวทางที่ดีที่สุด ซึ่งบทบาทนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำได้ดีที่สุดเพราะรู้ปัญหาดี อย่างการกรณีช่วยเหลือนักแสดงชาวจีน ตำรวจมีบทบาทสำคัญและประเด็นที่ตำรวจภาค 6 ไปขึ้นค่านักเลงถึงฝั่งพม่า พออนุมานได้ว่าที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหิมอยู่ได้ ตำรวจมีส่วนสำคัญ

       ดังนั้นเพื่อไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์อาละวาดได้สะดวกนัก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแหง่ชาติ(ผบ.ตร.)ที่กำลังจะจัดโผแต่งตั้งโยกย้ายรองผู้บังคับการ(รองผบก.)-สารวัตร(สว.)น่าจะใช้โอกาสนี้ล้างบางตำรวจนอกแถวที่คุมพื้นที่ตามแนวชายแดนทุกหน่วยออกไปแล้วย้าย ตำรวจพฤติกรรมดีทำงานตรงไปตรงมาเข้ารับหน้าที่แทน พร้อมให้แนวทางคุมเข้มตรวจเข้มทุกช่องทางเข้าออกทั้งสองประเทศ และกำชับห้ามเกิดซ้ำรอยแบบพ.ต.ท.บุกเคลียร์ส่วยข้ามชาติ

      ถ้า”ผบ.ตร.”ทำได้ จะเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้ชาวบ้านตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้น้อยลง  !!!