เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ที่ห้องประชุมสุรนารายณ์ ศฝร.ภ.3 ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส 1) รับผิดชอบกำกับการบริหารราชการ ภ.3 (เฉพาะ บก.สส.) รวมทั้งสั่งและปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ในลักษณะงานสืบสวนคดีอาญา และงานสอบสวนคดีอาญา นั้นเปิดเผยว่า

ตามคำสั่ง ตร. ที่ 578/2567 ลง 26 พ.ย.2567 และคำสั่ง ตร. ที่ 609/2567 ลง 20 ธ.ค.2567 ประกอบบันทึกสั่งการ ผบ.ตร. ลง 24 ธ.ค.2567 ท้ายหนังสือ สง.รอง ผบ.ตร.(สส) ที่ 0001(สส)/302 ลง 23 ธ.ค.2567 เรื่อง การมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบในงานสืบสวนสอบสวน นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.(สส)มอบหมายให้ตน เดินทางมาประชุมขับเคลื่อนพร้อมทั้งแนะนำชี้แจงแนวทางการปฏิบัติราชการงานสืบสวน และงานสอบสวน ให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.3 เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร.(สส)
โดยมีพล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.3,พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ
ผบก.ภ.จว.สุรินทร์,พล.ต.ต.สนธยา แต่แดงเพชร ผบก.สส.ภ.3,พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผบก.ศฝร.ภ.3,พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น
รรท.ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา,รอง ผบก.ฯ ที่รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน แต่ละ ภ.จว. ในสังกัด ภ.3 และข้าราชการตำรวจสังกัด ภ.3เข้าร่วมการประชุม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ได้กำชับให้ปฏิบัติดังนี้ ข้อสั่งการงานสืบสวน (1) การรายงานเหตุให้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น “ทันทีเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น” โดยให้รายงานทางโทรศัพท์ ทางไลน์ หรือช่องทางที่สามารถทำได้ แล้วจึงรายงานทางเอกสารตามประมวลระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 18 บทที่ 1 ด้วย
(2)ให้จัดทำแฟ้มหมายจับ และมีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบแต่ละหมายจับให้ชัดเจนในแฟ้มต้องมีข้อมูลครบถ้วนถูกต้องสมบูรณ์มีการเคลื่อนไหวเป็นปัจจุบันตลอดเวลา โดยให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม สั่งการ เร่งรัดคดีทุกระยะ จนกว่าจะสืบสวนคลี่คลายคดีหรือปิดคดีได้ ตรวจสอบทุกหมายว่าขาดอายุความหรือถอนหมายแล้วหรือไม่ทุกครั้ง
(3)ให้เร่งรัดจับกุมตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายที่ใกล้หมดอายุความโดยใช้แนวคิด “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก”
(4) เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นฝ่ายสืบสวนทุกระดับ ต้องลงไปในพื้นที่เกิดเหตุทันที ไม่ต้องรอ สั่งการ ให้ออกไปพื้นที่เกิดเหตุโดยเร็ว โดยให้ผู้บังคับบัญชาระดับภาคและ ภ.จว. ลงไปเป็นผู้อำนวยการสั่งการด้วยตนเอง
(5) ต้องมีข้อมูลท้องถิ่นครบถ้วน-แผนที่เดินดิน สถานที่สำคัญ-ข้อมูลบุคคลพ้นโทษ-ข้อมูลกล้อง CCTV-ข้อมูลอาชญากรรม
(6) การทำงานต้องมีการบูรณาการร่วมกัน ระหว่าง สืบสวนภาค สืบสวนจังหวัด และสืบสวนโรงพัก ให้มีการประสานงานกัน มีการแบ่งหน้าที่กันทำ และทำงานกันเป็นทีม ”ยุคนี้ไม่มีเด็ดยอดหรืออาบัง เป็นผลงานภาพรวมทุกหน่วย”
(7)การให้ข่าวหรือการสัมภาษณ์ในคดีต่าง ๆ ห้ามให้ข่าวเกี่ยวกับรายละเอียดของคดีเพราะอาจทำให้เสียหายต่อรูปคดี “นักสืบต้องพูดให้น้อย ทำงานให้มาก”
(8).การบริหารคดีให้มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลงานสืบสวน งานสอบสวน และนิติวิทยาศาสตร์ต้องทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน มีการประสานความร่วมมือและข้อมูลซึ่งกันและกัน
(9).ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุม กำกับ ดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทั้งคดีอาญาทางวินัยและทางปกครองอย่างถึงที่สุด การทำงานของนักสืบต้องยึดกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ นโยบายของผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด

พล.ต.ท.ธนายุตม์ ยังได้กล่าวเพิ่มว่า ในส่วนข้อสั่งการงานสอบสวน (1) พนักงานสอบสวนต้องรวบรวบพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จะรวบรวมได้เพื่อพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องควบคุม ตรวจสอบเสนอแนะ พนักงานสอบสวน ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ที่เกี่ยวข้อง เป็นที่พึ่งของน้อง
(2) กำชับให้พนักงานสอบสวนรวมทั้งผู้บังคับบัญชา ทุกระดับ ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร. ที่419/2556 ลง 1 ก.ค.2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา การทำสำนวน การสอบสวนและมาตรการควบคุมตรวจสอบเร่งรัดการสอบสวนคดีอาญา อย่างเคร่งครัด “อย่าปล่อยให้พนักงานสอนสวนทำงานอย่างโดดเดี่ยว
(3) กำชับพนักงานสอบสวน ให้รับเลขรับคำร้องทุกข์ให้เป็นไปตามระเบียบ อย่าให้เกิดข้อร้องเรียนว่าพนักงานสอบสวนไม่รับคำร้องทุกข์ ห้ามมิให้พนักงานสอบสวนปฏิเสธการรับคำร้องทุกข์ โดยเหตุว่าการกระทำความผิดอาญานั้นมิได้เกิดใน ท้องที่รับผิดชอบของตน ให้รับคำร้องทุกข์แล้วเสนอ ผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาส่งสำนวนการสอบสวนไปยังท้องที่รับผิดชอบตามกฎหมายโดยเร็ว
(4) กำชับการสั่งปล่อยตัวชั่วคราวพิจารณาด้วยความรวดเร็ว จะเรียกประกันหรือหลักประกันเกินควรแก่กรณีไม่ได้ คดีความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์ให้พิจารณาประกันหรือหลักประกันเป็นไปด้วยความรอบคอบได้สัดส่วนในความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เป็นไปตามข้อบังคับประธานศาล ฎีกา รวมทั้งคำสั่ง ตร. ที่กำหนดไว้
(5) กรณีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในคดีสำคัญหรือ คดีที่เป็นที่น่าสนใจ ตร. อาจให้นำสำนวนมาพบ เพื่อติดตามเร่งรัด การสอบสวนให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง
(6) การออกหมายจับ-ออกเฉพาะหมายจับคุณภาพ-กรอกข้อมูลหมายในระบบ-ตรวจสอบหมายไม่มีคุณภาพ
(7) การกระทำความผิดในลักษณะมีความต่อเนื่องหลายพื้นที่ สลับซับซ้อน ประชาชนให้ความสนใจเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล หรือคดีที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านหากพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เห็นสมควรโอนคดีให้ส่วนกลางหรือให้ส่วนกลางตังคณะทำงาน ให้เร่งรัดดำเนินการเสนอมา ตร. เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าในการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ”ผู้ช่วย ผบ.ตร. (สส.) กล่าว

เวลาต่อมา พล.ต.ท.ธนายุตม์ พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิบัติราชการตามนโยบายของ ผบ.ตร. ห้องประชุมไทรทอง ภ.จว.นครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมาศพฐ.3
จากนั้นเป็นประธานในการประชุมเพื่อติดตาม แนะนำ ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา
โดยมีพล.ต.ต.หญิง ธิติมา ธรรเมศรานนท์ ผบก.ศพฐ.3 พ.ต.อ.หญิง รัตนา เทพศิริ นวท.(สบ 5) ศพฐ.3,พ.ต.อ.เทอดไทย สุขไทย,รอง ผบก.ศพฐ.3 และข้าราชการตำรวสังกัด ศพฐ.3 รอรับการตรวจเยี่ยมและเข้าร่วมการประชุม
ได้กำชับให้ปฏิบัติดังนี้
(1) กำชับทุกศูนย์พิสูจน์หลักฐานต้องจัดชุดปฏิบัติการให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนหน่วยงานพื้นที่ได้ทันที เมื่อได้รับการประสาน ไม่ต้องรอสั่งการ เมื่อมีเหตุหรือคดีสำคัญ ให้หัวหน้าศูนย์และ ผบก.ศพฐ. ไปอำนวยการควบคุมตรวจที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมรายงานผลให้ทราบ
(2)งานพิสูจน์หลักฐานเป็นงานที่สร้างความเชื่อมั่นให้องค์กร เนื่องจากผลการตรวจพสูจน์เป็นพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งศาลรับฟังอย่างมีน้ำหนัก กำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นมืออาชีพ ดำรงความยุติธรรมแก่กระบวนการอาญา ไม่ให้มีช่องว่างให้ผู้กระทำความผิดหลุดรอดไปได้
(3) เมื่อออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ หรือได้รับพยานหลักฐาน ให้เร่งการตรวจพิสูจน์ ให้สามารถออกผลการตรวจด้วย ความรวดเร็ว และออกผลการตรวจอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเมื่อผลตรวจพิสูจน์ออกแล้ว ให้แจ้งผล และเร่งรัดติดตามพนักงานสอบสวนมารับผลการตรวจพิสูจน์โดยเร็ว

(4) บริหารคดีแบบ 3 เสาหลัก “Three Pillars” การบริหารคดีให้มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล งานสืบสวน งานสอบวน นิติวิทยาศาสตร์ ต้องทำงานแบบบูรณาการร่วมกันมีการประสานความร่วมมือและข้อมูลซึ่งกันและกัน
(5) ให้เตรียมความพร้อมสามารถออกปฏิบัติหน้าที่ได้ตลอดเวลา สนับสนุนชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ในกรณีที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดใน พื้นที่ไม่มีความชำนาญในเทคโนโลยีหรือรูปแบบของระเบิดที่ใช้ในครั้งนั้น ๆ
(6) การตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลให้ประสานฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการพิสูจน์อาทิ เช่น คณะแพทย์ ทันตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านลายพิมพ์นิ้วมือ และผู้เชี่ยวชาญในสาขา ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ให้เรียบร้อย ครบถ้วน
(7) งานตรวจประวัติบุคคล ต้องให้บริการประชาชนด้วยจิตใจบริการ ด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม โปร่งใส อย่าล่าช้า
(8) กำชับงานทะเบียนประวัติอาชญากรให้บันทึกข้อมูลประวัติอาชญากร ข้อมูลหมายจับให้ เป็นระบบ และเป็นปัจจุบัน รวมถึงรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นความลับทางราชการ
(9) ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ควบคุม กำกับดูแล กวดขันความประพฤติ และระเบียบวินัยข้าราชการตำรวจ ตามคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 โดยมีการออกคำสั่งให้มีการรับผิดชอบในแต่ละระดับ
(10) ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต้องประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งด้านครองตน ครองคน และครองงาน เน้นย้ำมีความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ อย่าเอาเปรียบผู้ใต้บังคับบัญชา“นิติวิทยาศาสตร์เปรียบเสมือนเขี้ยวเล็บของงานสืบสวน”