ตำรวจไซเบอร์แถลงปฏิบัติการ Child Shield รวบแรงงานเมียนมาร์ พรากเด็ก 10 ขวบไปกระทำชำเรา และถ่ายคลิป โดนข้อหาค้ามนุษย์
ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
วันที่ 9 ม.ค.68 เวลา 11.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์แถลงปฏิบัติการ Child Shield รวบแรงงานเมียนมาร์ พรากเด็ก 10 ขวบไปกระทำชำเรา และถ่ายคลิป โดนข้อหาค้ามนุษย์
สืบเนื่องจากกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้รับแจ้งเบาะแสจาก โครงการฮัก (Hug Project) ซึ่งเป็น NGOs ดำเนินงานในด้านการป้องกัน คุ้มครอง และฟื้นฟูเยียวยาเด็กจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศและการค้ามนุษย์ ว่าพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการนำเด็กมากระทำอนาจาร และบันทึกวีดีโอ แล้วมาเผยแพร่ ในกลุ่มลับ ซึ่งผู้เสียหายเป็นเด็กชายอายุ ประมาณ 10 ขวบ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท., พ.ต.อ.ไพโรจน์ หมื่นกล้าหาญ รอง ผบก.ตอท., พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รอง ผบก.ตอท. และ พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดรีบดำเนินการสืบสวน
จากการสืบสวนพบว่า ผู้เสียหายมี 2 คน อายุ 10 ปี และ 13 ปี เป็นบุคคลไร้สัญชาติ มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นแรงงาน สัญชาติเมียนมาร์ อายุ 27 ปี ทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เช่นกัน ตรวจสอบกลุ่มลับที่คนร้ายนำเผยแพร่ มีการเก็บเงินเพื่อเข้ากลุ่มลับ และภายในกลุ่มลับดังกล่าวมีการนำเด็กผู้เสียหายมากระทำอนาจาร และบันทึกวีดีโอเผยแพร่ รวมถึงได้มีการถ่ายทอดสดขณะกระทำอนาจารเด็ก ให้คนในกลุ่มชม ระยะเวลาที่ถ่ายทอดสดการกระทำอนาจารเด็กผู้เสียหายยาวนาน กว่า 1 ชั่วโมง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และประสาน บก.สอท.4 ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อนุมัติหมายจับ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.68/2568 ลง 8 ม.ค.68 ในข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ,ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก ส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็ก รวมถึงเพื่อประสงค์การค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก”
ต่อมาวันที่ 8 ม.ค.68 พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. พร้อม พ.ต.ท.วิเชียร คำชุมภู, พ.ต.ท.ณัฐพงค์ เผือกเนียม สว.ฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้มาตรวจสอบบริเวณถนนเชียงใหม่-ฮอด หมายเลข 108 ต.ยุหว่า อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ที่ได้สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทำงานอยู่ พบบุคคลมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับผู้ต้องหา จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและไม่เคยถูกจับตามหมายจับดังกล่าวมาก่อน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับดังกล่าว
จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าได้นำเด็กผู้เสียหายมากระทำชำเราที่บ้านพักอาศัย และได้ยินยอมพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบบ้านพัก และจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของกลาง พบว่ามีการลงชื่อเข้าใช้เป็นแอดมินในโซเชียลมีเดียกลุ่มลับ และพบคลิปวีดีโอที่มีลักษณะการกระทำอนาจารกว่า 1,919 คลิป
และจากการคัดแยกผู้เสียหายของทีมสหวิชาชีพ ได้ทำการสัมภาษณ์ผู้เสียหายทั้ง 2 คน มีความเห็นว่า ผู้เสียหายทั้ง 2 คน เป็นผู้เสียหายจากการถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงได้แจ้งข้อหาค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กเพิ่มอีกกระทงหนึ่ง