เตรียมเฮ..!!กรมอุตุฯชี้อากาศ 7 วันข้างหน้า กรุงเทพฯต่ำสุด 15 องศา

176

เตรียมเฮ..!!
กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า กรุงเทพฯต่ำสุด 15 องศา ขณะที่ PM2.5 พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์รายงานว่ส กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศใน 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 5 – 11 มกราคม 2568 ดังนี้ ในช่วงวันที่ 5 – 6 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวล
อากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุม
ประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้
บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิลดลง 1– 3 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น

ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้า
คะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและ
ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ในช่วงวันที่ 7 – 9 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2
เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 10 – 11 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2– 5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1
– 3 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้
ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอัน
ดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง : ในช่วงวันที่ 5 – 6 ม.ค. และ 10 – 11 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการ
เดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่
10 – 11 ม.ค. นี้ไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังการ

สัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย…

หนาวจริงหนาวจัง! ‘กทม.’อาจแตะต่ำสุด 15 องศา

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์ข้อความระบุว่า #สวัสดีหลังปี
ใหม่สภาพอากาศหนาวเย็นช่วงแรก 5-6-7 มกราคมนี้มาแล้วครับหนาวจริงหนาวจังหนาวแรกปีใหม่ระหว่าง 5-7
มกราคม โดยจะหนาวสุดในวันที่ 6 มกราคมนี้ครับ อุณหภูมิจะลดลงไป
อีก 2-3℃ อุณหภูมิต่ำสุด กทม.และปริมณฑลอาจจะลงไปถึง 15℃

ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 12℃ ความหนาวเย็นจะอยู่กับเราจนถึงประมาณวันที่ 20 มกราคม จะเริ่มอุ่นขึ้นส่วนเรื่องของฝนก็ยังคงไม่มีอะไรน่ากังวลน่ะครับช่วงนี้ แม้ว่ามีโหราจารย์หลายสำนัก ฟันธงปีนี้จะเป็นปี
ดุ น้ำท่วมหนัก แต่การคาดการณ์ทางวิทยาศาตร์บ่งชี้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกปี 2568 จะต่ำกว่าปีที่แล้ว แต่ยังคง
เป็นปีที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 1.41℃ (ปีที่แล้ว > 1.5℃) จากยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม ดังนั้น
สภาวะโลกร้อน และ Climate Change ยังคงส่งผลกระทบกับโลกต่อไป ประกอบกับเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงสุดขั้ว เช่นกรณี Rain bomb ไม่สามารถคาดการณ์ระยะยาวได้ จึงควรตระหนัก และตั้งอยู่ในความไม่ประมาท

มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า กรุงเทพฯจมฝุ่นอีกวัน PM2.5 ระดับสีส้ม-มีผลกระทบต่อสุขภาพ 46 พื้นที่ ‘หนองแขม’หนักสุด 57.6 มคก./ลบ.ม….ทีมโฆษกศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร
รายงานคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครขอสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 ช่วงเวลา
05.00-07.00 น. หรือ 3 ชั่วโมงล่าสุด โดยอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลคุณภาพ
อากาศกรุงเทพมหานคร กรมอุตุนิยมวิทยา และสํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
พบว่า ตรวจวัดได้ 30.7-57.6 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 40.6 มคก./ลบ.ม. โดยค่า
PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม และเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 46 พื้นที่

ทั้งนี้ ณ เวลา 07.00 น. วันนี้ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ในช่วง 30.7-57.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 46 พื้นที่

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวอาชญากรรม #สุขภาพสิ่งแใทท่