“พล.ต.ท.สำราญฯ” ตรวจสภาพการจราจร และตรวจความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและดูแลการจราจรแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 พร้อมแนะ 4 เตรียม ก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัย
วันนี้ (27 ธันวาคม 2567) เวลา 14.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในเทศกาลปีใหม่ 2568 บริเวณทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (วงแหวนตะวันออก) , ทางแยกต่างระดับบางปะอิน , ถนนพหลโยธิน (ทล.1) , ถนนมิตรภาพ (ทล.2) และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ช่วงปากช่อง – ขามทะเลสอ ระยะทาง 77 กิโลเมตร
ต่อมา พล.ต.ท.สำราญฯ เดินทางไปยังจุดบริการประชาชน ทล.204 ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา (ด้านตะวันตก) หรือ ถนนบายพาส อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมี พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 , พล.ต.ต.วิวัฒน์ ลีลาเขตต์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 , พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และผู้แทนภาคีเครือข่าย ให้การต้อนรับ และร่วมประชุมรับฟังการบรรยายจากตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และกองบังคับการตำรวจทางหลวง สรุปแผนการจราจรเทศกาลปีใหม่ , รับชมการบริหารจัดการกล้อง CCTV และการใช้โดรนตรวจสภาพการจราจร และรับฟังการบรรยายการใช้ M6 ของแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 พร้อมประชุม จากนั้น พล.ต.ท.สำราญฯ และคณะตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจ กำชับการปฏิบัติหน้าที่ และมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติงาน
พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวว่า รัฐบาลโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำการอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนในการเดินทางชปีใหม่ 2568 ให้เกิดความสะดวก คล่องตัวและปลอดภัย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ตำรวจทางหลวงเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการจราจร โดยมีตำรวจนครบาล และตำรวจภูธร ร่วมปฏิบัติ บูรณาการร่วมแขวงการทางพิเศษ อาสาสมัครจราจร ภาคีต่างๆ ซึ่งจะมีศูนย์บริหารจัดการจราจรของตำรวจทางหลวง ที่มีการติดตั้ง CCTV ดูการจราจรแบบ Real Time เป็นเครื่องมือในการจัดจราจร ซึ่งคาดการณ์ว่าช่วงปีใหม่ 2568 จะมีรถเข้าออกกว่า 7.2 ล้านคัน มากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 4.6% โดยปริมาณรถจะหนาแน่นมากที่สุดในวันที่ 27 และ 28 ธันวาคม 2567 ในเที่ยวขาไป ส่วนขากลับจะเป็นวันที่ 1 – 2 และวันที่ 4 – 5 มกราคม 2568 โดยจุดที่คาดว่าจะเป็นปัญหาการจราจร จะเป็นต่างระดับบางปะอิน ต่อเนื่องถนนมิตรภาพ ช่วงทับกวาง กลางดง , ถนนช่องตะโก ที่เชื่อมต่อสระแก้ว-บุรีรัมย์ , ถนนพระราม 2 ออกสู่สายใต้ และถนนเอเชีย บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันต่างๆ
สำหรับปีนี้ได้เน้นย้ำกับตำรวจผู้ปฏิบัติงาน ให้เร่งระบาย ส่งต่อรถ อย่าให้เกิดสะสม ให้ตำรวจทางหลวงประสานกองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อทราบปริมาณรถ วางแผนการจราจร ส่งต่อข้อมูลให้กับตำรวจภูธรต่างๆ รับทราบร่วมกัน เพื่อบูรณาการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน โดยเน้นการเปิดช่องทางพิเศษในช่วงที่มีการจราจรติดขัด เช่น ถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ ถนนช่องตะโก ถนนพระราม 2 ส่วนการประชาสัมพันธ์ให้ตำรวจทางหลวง Live สด การจราจรในจุดสำคัญ ผ่านเพจ “ตำรวจทางหลวง” ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรับทราบ เพื่อประกอบการวางแผนการเดินทาง
จากสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุ 2,288 ครั้งบาด บาดเจ็บ 2,307 คน เสียชีวิต 284 คน สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ ขับรถเร็ว และเมาแล้วขับ ส่วนรถที่เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุมากที่สุดคือรถจักรยานยนต์ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำบทเรียนดังกล่าวมาวางแผนป้องกันอุบัติเหตุ โดยจะเน้นเรื่องความเร็วในถนนเส้นทางหลัก จะมีการตรวจจับความเร็ว ตั้งจุดตรวจชะลอความเร็ว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนเมาแล้วขับ จะเน้นถนนตามชุมชนและหมู่บ้าน โดยให้ตำรวจท้องที่ร่วมกับทางชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. ช่วยกันตั้งจุดตรวจตามรอยต่อชุมชน ตรวจวัดแอลกอฮอล์อย่างเข้มข้น และห้ามรถบรรทุกใช้เส้นทางในพื้นที่จราจรหนาแน่น 8 เส้นทาง พร้อมกำชับการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก (10 รสขม) ให้เกิดผลปฏิบัติเป็นรูปธรรม เพื่อลดและป้องกันอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สำราญฯ ฝากถึงพี่น้องประชาชนให้เตรียมความพร้อม 4 ด้าน ก่อนออกเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ได้แก่
- เตรียมยานพาหนะ : ให้พี่น้องประชาชนตรวจสอบดูแลสภาพความพร้อมของยานพาหนะก่อนออกเดินทาง
- เตรียมร่างกาย : ผู้ขับขี่ต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนออกเดินทาง เมาไม่ขับ พักผ่อนให้เพียงพอ
- เตรียมเส้นทาง : ตรวจสอบเส้นทางหลัก เส้นทางรอง เส้นทางเลี่ยง เพื่อวางแผนการเดินทาง
- เตรียมอารมณ์ : ทำจิตใจให้แจ่มใส เพื่อป้องกันการใช้อารมณ์ในการขับขี่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทาง ติดต่อขอความช่วยเหลือที่สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 , สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 , สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และตำรวจทางหลวงยังได้จัดโครงการ “ห้องพักฟรี จากใจตำรวจทางหลวง “กรณีที่ประชาชนเมื่อยล้า ง่วง เพลีย สามารถเข้าพักเพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้ ณ 205 หน่วยบริการทั่วประเทศ