ที่รัฐสภา วันที่ 20 ธันวาคม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม(กมธ.อุตสาหกรรม) เปิดเผยถึงกรณีโรงงานเหล็กแห่งหนึ่งเกิดเหตุระเบิด ว่า สำหรับโรงงานที่เกิดเหตุนั้นมีทั้งสิ้น 2 แห่งรวมกับโรงงานที่เกิดเหตุระเบิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้โรงงานอีกแห่งหนึ่งได้เกิดเหตุเครนถล่มจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งทาง กมธ.อุตสาหกรรม ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะจังหวัดระยอง และอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้มีการกวดขันและตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนจะอนุญาตให้โรงงานดำเนินการต่อ เนื่องจาก ทาง กมธ.อุตสาหกรรม ได้เห็นข้อบกพร่องจากการตรวจสอบหลายจุดซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยได้ นอกจากนี้ยังมีการติดตามการดำเนินคดีกรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุเครนถล่ม และอีกหลายกรณีอย่างใกล้ชิดเช่นการต้องปฏิบัติตามกฎหมาย EIA เป็นต้น
นายอัครเดชกล่าวว่า แม้เหตุบกพร่องในโรงงานที่เกิดเหตุเครนถล่มยังไม่สิ้นข้อสงสัยบางประการ แต่ก็มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีก โดยทางนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งให้โรงงานดังกล่าวหยุดดำเนินการ ทาง กมธ.อุตสาหกรรม เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีการใช้ความเด็ดขาดกับผู้ประกอบการที่ขาดความระมัดระวัง เกิดเหตุซ้ำซาก ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหลายครั้ง
ทั้งนี้ ประธานกมธ.อุตสาหกรรม ได้มีข้อเสนอแนะว่าสำหรับโรงงานหรือผู้ประกอบการที่ขาดความรับผิดชอบ ละเมิดต่อกฎหมายอย่างซ้ำซากนั้น จะต้องมีการลงโทษอย่างรุนแรงและเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างแก่ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ สำหรับกรณีนี้ทาง กมธ.อุตสาหกรรม จะได้มีการเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อสอบถามโดยละเอียด โดยเฉพาะว่าทำไมผู้กำกับดูแลจึงปล่อยให้เกิดเหตุร้ายเช่นนี้ซ้ำอีกครั้งในโรงงานซึ่งมีเจ้าของหรือผู้บริหารเดียวกัน หรือเกี่ยวข้องกัน
นอกจากนี้ กมธ.อุตสาหกรรม ยังได้รับข้อร้องเรียนในโรงงานดังกล่าวอีกหลายเรื่อง เช่น การใช้แรงงานต่างด้าวว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ การขออนุญาตต่าง ๆ ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงข้อร้องเรียนการดำเนินการจัดการกากอุตสาหกรรมจากโรงงานดังกล่าวว่าทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร จึงจะขอเชิญหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการอุตสาหกรรมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนดังกล่าว ต่อไป