วันที่ 3 ธ.ค. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงโครงการความร่วมมือระหว่าง กระทรวง ดีอี และ Google ในการปราบปรามและป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญในการป้องกันความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นด้านการใช้งานดิจิทัลให้กับประชาชน โดยช่วยป้องกัน การติดตั้งแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย และมีความเสี่ยงจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักโดยอัตโนมัติ บนสมาร์ทโฟนระบบ Android ด้วยฟีเจอร์ Google Play Protect ซึ่งเป็นการสกัดช่องทางการก่อเหตุของมิจฉาชีพ ที่ต้องการจะเพื่อหวังดูดเงิน หรือข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน Google ในประเทศไทย
สำหรับจากสถิติ พบว่าตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน Google Play Protect ได้ช่วยสกัดกั้นความพยายามของมิจฉาชีพ ในการติดตั้งแอปฯ ที่มีความเสี่ยงไปแล้วกว่า 4.8 ล้านครั้ง บนอุปกรณ์ Android กว่า 1 ล้านเครื่อง บล็อกแอปฯ ไปกว่า 41,000 รายการ จากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักบนอินเทอร์เน็ต เช่น เว็บเบราว์เซอร์ แอปรับส่งข้อความ หรือโปรแกรมจัดการไฟล์ ซึ่งรวมไปถึงแอปฯ ปลอมที่มีการแอบอ้างเป็นแอปฯรับส่งข้อความ แอปฯเกม และแอปฯ อีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยม
“โครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวง ดีอี และ Google ในการใช้ฟีเจอร์ Google Play Protect ถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ ที่ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีให้กับคนไทย โดยฟีเจอร์ดังกล่าวทำหน้าที่ในการตรวจจับและบล็อกแอปฯ ที่เป็นอันตราย เช่น แอปฯ ที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมโทรศัพท์ หรือแอปดูดเงิน ก่อนที่จะมีการติดตั้งลงในอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน ซึ่งช่วยให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง และสร้างความเชื่อมั่นในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้กับคนไทย เพื่อการก้าวสู่การมีเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ที่ปลอดภัย เท่าเทียม และยั่งยืน”
อย่างไรก็ตาม กระทรวง ดีอี มุ่งมั่นดำเนินการสร้างความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในลักษณะโครงการความร่วมมือดังกล่าวกับบริษัทชั้นนำของโลก ตามข้อสั่งการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและทรัพย์สินของประชาชน หรือด้านการพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนการเป็นรัฐบาลดิจิทัลพร้อมก้าวสู่การเป็น Digital Nation