อย่ากระพริบตา..!!! บ่ายวันพุธที่ 20 พ.ย..นี้“นายกฯ”นัดประชุมแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร.ถึง ผบช.วาระประจำปี 2567 ใช้กฏเหล็ก พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 ครั้งแรก
![](https://thaitabloid.com/wp-content/uploads/2024/11/1731748429038-1024x614.jpg)
เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัญมนตรี ในฐานะ ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ได้นัดประชุมระเบียบวาระการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 10/2567 ในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14.30 น.ณ ห้องประชุมศรียานนท์ อาการ 1 ชั้น 2 ตร.
![](https://thaitabloid.com/wp-content/uploads/2024/11/InShot_20241116_161441784-887x1024.jpg)
(วาระที่ 1 )เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
(วาระที่ 2)รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.เรื่องที่ รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 8/2567,เรื่องที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 9/2567
(วาระที่ 3)เรื่องที่เสนอเพื่อหราบ เรื่องที่ 1 ขอสำเนารายงานการประชุม ก.ตร.,เรื่องที่ 2 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.วินัย ที่ ก.ตร.มอบหมายให้ทำการแทน,เรื่องที่ 3 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.กฎหมาย ที่ ก.ตร.มอบหมายให้ทำการแทน
(วาระที่ 4)เรื่องที่เสนอเพื่อพิจารณา,เรื่องที่ 1. การพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมมติ ก.ตร.ครั้งที่ 9/2567 เมื่อ 30 ต.ค.67 กรณีการยกเว้นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง,เรื่องที่ 2 ปัญหาข้อกฎหมายกรณีการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งสำหรับบุคคลที่รับโอนกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ,เรื่องที่ 3 การจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการตำรวจ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2567“เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ”(วาระที่ 5 )เรื่องอื่น ๆ ถ้ามี
![](https://thaitabloid.com/wp-content/uploads/2024/11/1731748427343-1024x649.jpg)
สำหรับวาระสำคัญคือวาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับ รอง ผบ.ตร.ถึง ผบช. โดยให้กฏหมาย ตาม พรบ.ตำรวจ ปี พ.ศ.2565 มาใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งเป็นครั้งแรก
สำหรับ ตำแหน่งว่างระดับ รอง ผบ.ตร. ถึง ผบช.วาระประจำปี 2567 ตำแหน่งรอง ผบ.ตร ว่าง 4 ตำแหน่ง ผู้ช่วยว่าว 7 ตำแหน่ง,ตำแหน่ง ผบช.ว่าง 14 ตำแหน่ง และตำตำแหน่งระดับ ผบช.แต่งตั้งหมุนเวียนในระนาบอีกจำนวนหนึ่ง
มีรายงานว่า ที่ประชุมจะมีการพิจารณาหาผู้เหมาะสมในตำแหน่งต่างๆ เริ่มที่ การมีมติรับรอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร. ใช้หลักพิจารณาผู้มีอาวุโสทั้งหมด 100%
ประกอบด้วยรายชื่อต่อไปนี้ 1)พล.ต.ท.ประจวบ วงษ์สุข นรต.39 เกษียณ 2568
2) พล.ต.ท.นิรันดร์ เหลื่อมศรี นรต.43 เกษียณ2571
3) พล.ต.ท.กรชัย คล้ายคลึง นรต.41 เกษียณ 2569
4) พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร นรต.42 เกษียณ
2570
ระดับผู้บัญชาการขึ้นผู้ช่วยผู้บัญชาการ พิจารณาตามอาวุโส 100 % เช่นกัน มีตำแหน่งว่างทั้งหมด 7 ตำแหน่ง ดังนี้
1) พล.ต.ท.ธนพล ศรีโสภา หัวหน้าจเรตำรวจ เกษียณ 2572
2) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นรต.40 เกษียณ 2568
3) พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล นรต.40 เกษียณ 2568
4) พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐ์พงษ์ ผู้บัญชาการส่งกำลังบำรุง นรต.42 เกษียณ 2570
5) พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นรต.43 เกษียณ 2570
6) พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นรต.42 เกษียณ 2569
7) พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 นรต.41 เกษียณ 2568
โดยตำแหน่งที่น่าจับตาอย่างยิ่ง คือการแต่งตั้งผู้บัญชาการตัวเลข และผู้บัญชาการในตำแหน่งหลัก ที่สำคัญต่างๆซึ่งเป็นการคาดเดา มีดังนี้
ผบช.น. เจ้าของรหัสร้อน “น.1″ ครั้งแรกปรากฎชื่อ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ เผดิมชิต ผบช.ภ.7 แต่เจ้าตัวขออยู่เพื่อรอเกษียณอายุปีหน้า 2568 จึงมีชื่อ ” พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรมัย ผบช.ประจำตร.นรต.48 จะเข้ามาเสียบแทน แต่เนื่องจากติดขัดคุณสมบัติบางประการ ทำให้ชื่อของ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำตร. นรต.47 ถูกหยิบขึ้นมาเป็นแคนดิเดทแทน
ผบช.ภ.1 ยังไม่ลงตัว ปรากฎแคนดิเดท 4 ท่าน มีทั้ง พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำตร. นรต.41 “พล.ต.ท.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ จเรตำรวจ นรต.45 “พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ศ. นรต.40 และ พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเสรณี รองผบช.ภ.6
ผบช.ภ.2 ปรากฎชื่อแคนดิเดท 3 นายประกอบด้วย “”พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร
“พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง และคนในไลน์ภาค 2 ระดับรองผู้บัญชาการ
ผบช.ภ 3 นิ่งตลอด ไม่มีคู่แข่ง เพราะมีพลังงานสีน้ำเงิน แปะชื่อ พล.ต.ท.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ นรต.47
ผบช.ภ.4 เหมือนจะเป็นที่หมายปอง มีแคนดิเดทหลายนาย ตั้งแต่ “พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรมัย นรต.48 พล.ต.ท.พฤฒิพงษ์ ประยูรศิริ ผบช.ประจำตร.นรต.42 “พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผบช.ภ.6 นรต.41 และพล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผบช.ภ.5
ผบช.ภ.5-7-9 นิ่ง คนเดิมยังรักษาเก้าอี้ได้
ผบช.ภ.6 คนเดิม”พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ อาจมีแคนดิเดทมาแซะ เป็นผบช.ใน ตร.ท่านนึง และพล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคเศรณี รองผบช.ภ.6
ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร เจ้าของเก้าอี้ถูกมองว่า มีขั้วอำนาจเก่าหนุน แต่เจ้าตัวยังมีดีต่อขั้วอำนาจเมืองเหนือได้ แต่ยังมีชื่อ “เม่นขาว” นายพลคนดังรอเสียบอีกแรง
ผบช.สตม.ที่ว่างลง โผแรกปรากฎชื่อ.พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.กำลังพล นรต.41 สายพลังภาคตะวันออกสระแก้ว แต่สุดท้ายน่าจะเป็น “พล.ต.ต.ภานุมาศ บุญญรักษ์ รองผบช.สตม.นรต.41 เพื่อนกันขึ้นมาแทน ด้วยพลังบ้านใหญ่ภาคเหนือ
ผบช.ตำรวจสันติบาล ลุ้น 2 ชื่อ ใครจะเข้าวิน ระหว่าง พล.ต.ต.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ นรต.41 กับ”พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ุม่วง รอง ผบช. ก. นรต.52
ผบช.สอท.มี 2- 3 แคนดิเดท ที่แรงมาตั้งแต่ต้น คือ พล.ต.ต.มณฑล บัวจีบ รองผบช.ส.แต่ยังฟันธงไม่ได้
ผบช.ท่องเที่ยว ยังไม่นิ่ง พร้อมจะมีตัวสอดแทรก ส่วนที่ บช.ปส.ปราบยาเสพติด แปะชื่อ” พล ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ.ใครเป็นใคร !?สรุปผลได้ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ทันทีที่ผ่านการพิจารณา ก.ตร.มีมติ ผบ.ตร.จะมีคำสั่งรักษาการในตำแหน่งใหม่ทันที
![](https://thaitabloid.com/wp-content/uploads/2024/11/1731839595575-1024x686.jpg)
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สภพ. มีหนังสือเวียนแจ้ง รอง ผบ.ตร. และ จตช. กรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร.ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 81(3) (ก) กำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. เพื่อทำหน้าที่พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมในการศัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง จตช. ลงมาถึงผบช. และ จตร.
โดย ผบ.ตร.ประธานกรรมการ ได้กำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาแต่งตั้งตั้งข้าราชการดำรวจดำรงตำแหน่งระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง จดช. ลงมาถึง ผบช. และ จตร. วาระประจำปี 2567
![](https://thaitabloid.com/wp-content/uploads/2024/11/InShot_20241117_173515677-502x1024.jpg)
ในวันที่ 19 พ.ย. เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม 6 ชั้น 2 อาคาร 1ตร.รายงานว่า ที่ประชุมเสนอเอกสารพิจารณาแต่งตั้ง ได้แก่ บัญชีลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจ บัญชีรายชื่อผู้อยู่ในเกณฑ์ที่สมควรให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ประวัติของข้าราชการตำรวจ ผลการปฏิบัติงานและบันทึกการปฏิบัติงานมาแล้วด้วย
รองโฆษก ก.พ.ค.ตร. โพสต์fb
ยัน ก.ตร. ต้องได้รับข้อมูลข้าราชการตำรวจที่จะได้รับการแต่งตั้งก่อนการประชุม คัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร.ลงไปจนถึงผู้บังคับการ
![](https://thaitabloid.com/wp-content/uploads/2024/11/1731877456291.jpg)
นายธวัชชัย ไทยเขียว กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)และรองโฆษก ก.พ.ค.ตร. ได้โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ส่วนตัว แสดงความคิดเห็นว่า
ทำไม ก.ตร. ต้องได้รับข้อมูลข้าราชการตำรวจที่จะได้รับการแต่งตั้งก่อนการประชุม
ด้วยการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ ผบ.ตร.ลงไปถึงตำแหน่งผู้บังคับการต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด คือ
การแต่งตั้งตำแหน่ง ผบ.ตร. นายกรัฐมนตรีต้องคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจผู้มีคุณสมบัติตามกฎหมาย โดยต้องคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปรามเสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
การแต่งตั้งตำแหน่งรอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร. ต้องคัดเลือกจากรายชื่อข้าราชการตำรวจเสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนแล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
การแต่งตั้งตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร.และรองจเรตำรวจแห่งชาติ และตำแหน่งผู้บังคับการ ผบ.ตร. ต้องคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจตามที่คณะกรรมการพิจารณากาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามกฎหมายเสนอแนะ แล้วเสนอ ก.ตร. ให้ความเห็นชอบ แล้วจึงนำเสนอนายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
การแต่งตั้งตำแหน่งรองผู้บัญชาการและจเรตำรวจ และตำแหน่งผู้บังคับการ ผบ.ตร. ต้องคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจตามที่คณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามกฎหมายเสนอแนะก่อน โดยให้นำข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการระดับกองบัญชาการที่ได้มีการพิจารณาเสนอในรูปคณะกรรมการตามที่กำหนดในกฎ ก.ตร. มาประกอบการพิจารณาด้วย หากมีความเห็นแตกต่างจากข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการ ให้ชี้แจงเหตุผลต่อคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามตามกฎหมายก่อนเสนอ ก.ตร. พิจารณาให้ความเห็นชอบ แล้วจึงนำเสนอนายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
การจัดทำข้อมูลการเสนอแต่งตั้งรองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจของหัวหน้าส่วนราชการให้พิจารณาเสนอรายชื่อได้เฉพาะข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งในสังกัดเท่านั้น
ในกรณีที่ ก.ตร. ตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่พระราชบัญญัตินี้กำหนด ให้แจ้งให้ผู้บัญชาการตำรจแห่งชาติเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป
ฉะนั้น จึงเห็นได้ว่า ก.ตร. จำเป็นอย่างยิ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อมีความเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ จึงถือว่าได้ว่า การลงมติเห็นชอบของ ก.ตร. ต่อกรณีดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องสำคัญหรือกระทบต่อส่วนได้เสีย ซึ่งอาจเพิกถอนมติที่ประชุมอันผิดระเบียบนั้นได้ ตามป.พ.พ. มาตรา ๑๑๗๕ วรรคสอง ซึ่งเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๔๑๓/๒๕๖๐ เป็นแนวทางไว้เพราะเป็นเหตุให้ผู้ที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งนำไปอุทธรณ์ยัง ก.พ.ค.ตร. ตามมาตรา ๑๔๑ (๒) แห่ง พรบ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ และหากคำอุทธรณ์รับฟังได้ ผู้มีอำนาจอาจมีความผิดตามมาตรา ๘๗ วรรคสี่ ที่ต้องรับโทษทางวินัยโดยไม่ต้องสอบสวน หรือรับโทษทางอาญาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี ตามมาตรา ๘๗ วรรคห้า ครับ
https://www.facebook.com/share/p/Zs6V3XGpJ9Qhmmqj/?mibextid=WC7FNe