“พาณิชย์” จับเข่าคุย 70 ห้างท้องถิ่นต้นแบบ ชูโมเดล “ห้างท้องถิ่นพี่เลี้ยงโชห่วย“

169

ที่กระทรวงพาณิชย์ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ณ ห้องมโนปกรณ์นิติธาดา ชั้น 12 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ (พณ.)  ว่า ในวันนี้ กระทรวงมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเชิญผู้ประกอบการ “ห้างท้องถิ่น” ที่ผ่านการพัฒนาและยกระดับจากกรมฯ หรือ “ห้างท้องถิ่นต้นแบบ” จากทั่วประเทศ จำนวน 70 ราย ครอบคลุม 4 ภูมิภาค เข้าร่วม แลกเปลี่ยนมุมมอง ประสบการณ์การทำธุรกิจ เพราะเป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่ในพื้นที่ย่อมมองเห็นปัญหา อุปสรรค และโอกาสที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นอย่างแท้จริง มากไปกว่านั้นจะได้รับฟังความคิดเห็น และความต้องการในการส่งเสริมธุรกิจค้าส่งค้าปลีกให้เข้มแข็งจากหน่วยภาครัฐ ซึ่งจะทำให้พัฒนาได้อย่างตรงจุด

รมช.พณ. กล่าวว่า วันนี้กระทรวงได้รับทราบความคิดเห็นจากทั้งมุมมองของสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และผู้ประกอบการห้างท้องถิ่น ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ประเด็นหลัก ประเด็นแรก คือ พัฒนาผู้ประกอบการห้างท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง เช่น การอบรมให้ความรู้การทำธุรกิจ และการสนับสนุนเทคโนโลยีบริหารจัดการ ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ได้พัฒนาทักษะองค์ความรู้ผู้ประกอบการอยู่เสมอ หลายหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์มีหลักสูตรออนไลน์ที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่าย บริการคลังความรู้เพื่อการทำธุรกิจ และแพลตฟอร์ม DBD SMEs 360 ที่รวบรวมบริการด้านเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ประกอบการได้เลือกใช้บริการด้วยต้นทุนที่ถูกลง รวมทั้งมีกิจกรรมโครงการที่บ่มเพาะผู้ประกอบการห้างท้องถิ่นผ่านการให้คำปรึกษาเชิงลึก ณ สถานประกอบการ เพื่อพัฒนาให้เป็นห้างท้องถิ่นต้นแบบที่มีการบริหารจัดการธุรกิจที่ได้มาตรฐาน และมีความสามารถในการแข่งขัน

ประเด็นที่สอง เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ และพันธมิตร เช่น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ประกอบการห้างท้องถิ่นที่ผ่านการพัฒนา รวมถึงเชื่อมโยงไปยังร้านค้าปลีก (โชห่วย) ในพื้นที่เพื่อสร้างเครือข่ายในท้องถิ่นที่เข้มแข็ง กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจที่เกื้อกูลซึ่งกัน และกันเพื่อสร้างธุรกิจค้าส่งค้าปลีกเข้มแข็งทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนห้างท้องถิ่นที่ทำหน้าที่ “พี่เลี้ยงโชห่วย” ช่วยพัฒนาร้านค้าโชห่วยในพื้นที่ให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย” ที่มีภาพลักษณ์ร้านค้าที่ดี และมีการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการร้านค้า การพาผู้ประกอบการศึกษาดูงานทั้งใน และต่างประเทศเพื่อให้เกิดแนวคิดมุมมองใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งจัด “ตลาดพาณิชย์” ทั่วประเทศที่เป็นการบูรณาการความร่วมมือกับหลายภาคส่วนรวมถึงห้างท้องถิ่นเพื่อเพิ่มช่องทางการขายและเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่ และผู้บริโภคในพื้นที่

ประเด็นสุดท้าย คือ การรวมกลุ่มของห้างท้องถิ่นเพื่อทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ในการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์ได้ผลักดันประเด็นนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนสินค้า ขณะที่ซัพพลายเออร์ก็สามารถขายสินค้าได้ในปริมาณมากขึ้น เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างห้างท้องถิ่นกับซัพพลายเออร์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ลดค่าครองชีพของประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยกรมฯ มีแผนรายปีร่วมกับห้างท้องถิ่นจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ พร้อมกับการสัมมนาสมาร์ทโชห่วยใน 4 ภูมิภาค รวมทั้งกิจกรรม Local Low Cost ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของห้างท้องถิ่นกว่า 90 ราย ร่วมกันจัดกิจกรรมลดราคาสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศในอนาคตด้วย

รมช.พณ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังการประชุมยังมีกิจกรรมมอบเกียรติบัตรให้แก่ห้างท้องถิ่นที่ผ่านการพัฒนาในปี 2567 ท่ามกลางสักขีพยานที่เป็นรุ่นพี่ห้างท้องถิ่นต้นแบบที่ร่วมมาแสดงความยินดีและพร้อมจะแบ่งปันประสบการณ์การพัฒนาธุรกิจไปด้วยกัน รวมทั้งมีการจัดแสดงบูธ Show Case ประกอบด้วย การขยายธุรกิจด้วยโมเดลร้านค้าโชห่วยค้าส่งท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยรักษาและเพิ่มฐานลูกค้าที่เป็นร้านค้าโชห่วยในระยะยาว การผลิตสินค้าภายใต้ตราสัญลักษณ์ของตนเอง (House Brand) เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มสัดส่วนกำไรให้กับกิจการ รวมทั้งการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงด้วยการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีห้างท้องถิ่นที่สามารถพัฒนาไปสู่บริษัทมหาชนได้แล้ว จำนวน 3 ราย Show Case เหล่านี้จะช่วยจุดประกายความคิดให้     ห้างท้องถิ่นต้นแบบไม่หยุดอยู่กับที่และยกระดับธุรกิจให้มั่นคงยิ่งขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายของวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 รมช. ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าพาคณะผู้ประกอบการห้างท้องถิ่น เข้าศึกษาดูงาน ณ ท็อปส์ (Tops) สาขาเซ็นทรัลเวสต์เกต ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด และสมาคมผู้ค้าปลีกไทย โดยได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองแนวคิดในการดำเนินธุรกิจเรื่องการบริหารจัดการวัตถุดิบอาหารสด อาหารพร้อมทาน และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนการบริหารจัดการคำสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์ที่เชื่อมโยงไปยังคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ การศึกษาดูงาน ณ Tops ในครั้งนี้ ทำให้ผู้ประกอบการห้างท้องถิ่นซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคอยู่แล้ว สามารถต่อยอดแนวคิดการทำธุรกิจโดยนำเอาวัตถุดิบและอาหารสด ฯลฯ มาสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันจากความหลากหลายของสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากขึ้น และช่วยเพิ่มสัดส่วนกำไรให้กับกิจการในระยะยาว

ปัจจุบันมูลค่าธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทยอยู่ที่ 3.64 ล้านล้านบาท โดยผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล  มีจำนวน 22,935 ราย (ที่มา: รายงานผลการศึกษาจุดแข็ง-จุดอ่อนของห้างท้องถิ่นไทยโดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เดือนสิงหาคม 2567และ DBD datawarehouse+ เดือนกันยายน 2567) ทั้งนี้ ผู้ประกอบการห้างท้องถิ่นที่สนใจสมัครเข้ารับการพัฒนาสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารโครงการ “พัฒนาห้างท้องถิ่นต้นแบบ”   ได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ Facebook Page สมาร์ทโชห่วย หรือ โทร. 02 547 5986 กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รมช.พณ. กล่าวทิ้งท้าย