พม.จับมือภาคีเครือข่ายจัดงาน“เด็กพิการเรียนไหนดี 68 กรุงเทพฯ”

2003

พม. จับมือ กทม.- สสส  – มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม – ภาคีเครือข่าย จัดงาน “เด็กพิการเรียนไหนดี 68 กรุงเทพฯ” แนะแนวศึกษาต่อให้นักเรียนพิการก้าวสู่รั้วมหาลัย

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นประธานเปิดงาน “เด็กพิการเรียนไหนดี 68” มหกรรมแนะแนวการศึกษาต่อระดับชั้นอุดมศึกษา และอาชีวศึกษาสำหรับเด็กพิการจากทั่วประเทศ ครั้งที่ 10 พร้อมกล่าววิสัยทัศน์ “ความสำคัญของการศึกษาต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ” โดยมี นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวรายงาน และนางสาวการณ์ฉัตร โพธิ์ประสิทธิ์ ตัวแทนนักเรียนพิการ กล่าวต้อนรับ ซึ่งมี นายอนรรฆ พิทักษ์ธานิน และ นายอาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางณฐอร อินทร์ดีศรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร  นายฉัตรชัย อภิบาลพูนพล ประธานมูลนิธิด้วยกัน เพื่อคนพิการและสังคม ผู้แทนภาคีเครือข่ายด้านการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ชั้น บี2 อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ งาน “เด็กพิการเรียนไหนดี 68” เป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม และภาคีเครือข่าย เพื่อสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เข้าถึงได้จริงสำหรับนักเรียนพิการ และเปิดมุมมองการศึกษาในหลากหลายด้าน นำไปสู่โอกาสในการประกอบอาชีพที่มั่นคงในอนาคต

นายอนุกูล กล่าวว่า สถานการณ์คนพิการในประเทศไทย มีคนพิการ จำนวน 2,209,099 คน ซึ่งพบว่า มีคนพิการที่ไม่ได้รับการศึกษาจำนวน 447,553 คน ส่วนคนพิการที่ได้รับการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในระดับประถมศึกษามากที่สุด เป็นจำนวน 1,405,039 คน รองลงมา คือ ระดับมัธยมศึกษา จำนวน 234,963 คน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช. ปวส. และ ปวท.) จำนวน 48,961 คน และระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จำนวน 38,668 คน ทั้งนี้ ข้อมูลกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) พบว่า มีเด็กนอกระบบการศึกษาที่พิการ มีจำนวน 22,540 คน และสถานการณ์ด้านอาชีพของคนพิการวัยทำงานทั่วประเทศ พบว่า คนพิการส่วนใหญ่ไม่ได้ประกอบอาชีพ จำนวน 413,060 คน

นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นำโดยนายวราวุธ ศิลปอาชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยได้มีนโยบายด้านคนพิการเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยความพิการไม่เป็นข้อจำกัด ฉะนั้นในส่วนของคนพิการ ตนเชื่อว่า ถ้าสังคมได้เปิดพื้นที่ในรูปแบบงานที่เกิดขึ้นในวันนี้ น้องๆ คนพิการ จะมีโอกาสในเรื่องของการศึกษามากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่าโอกาสของคนพิการนั้น ต้องการเพียงพื้นที่หรือโอกาส คนพิการนั้นมีศักยภาพและเพียบพร้อมที่จะทำแม้แต่เรื่องนวัตกรรม คนพิการพร้อมที่จะจัดการตัวเอง ช่วยเหลือดูแลตนเองอยู่แล้ว อันนี้เราทราบร่วมกัน แต่ว่าสังคมต่างหากที่เป็นกลไกสำคัญ 

สำหรับกระทรวง พม. พยายามใช้กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อจะเชื่อมกับการทำนวัตกรรมกับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อที่จะให้การเชื่อมโยงวิธีการศึกษากับโอกาสของคนพิการ โดยน้องๆ ที่อยู่ในระบบการศึกษาหรือว่าหลุดจากระบบการศึกษา หรือที่จะไม่สามารถไปต่อทางการศึกษาได้มีจำนวนมาก และมีจำนวนกว่า 10,000 คน คือไม่ได้เข้าถึงการศึกษา นับเป็นประเด็นท้าทายสำคัญว่า ถ้าเราเปิดพื้นที่ให้คนพิการเข้าถึงโอกาสต่างๆ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะเป็นพื้นที่สำคัญให้คนพิการได้มีโอกาสการศึกษาและเชื่อว่าข้อจำกัดของประเทศไทยในการแข่งขันกับประเทศต่างๆ  คือ ศักยภาพของประชาชนพลเมือง ซึ่งคนพิการมีโอกาสสูงมาก ถ้าเราได้เชื่อมโอกาส การพัฒนาทางวิธีการศึกษาทำให้คนพิการเข้ามาเป็นส่วนสำคัญ จากการที่วัยแรงงานหายไปนั้น จะถูกทดแทนทำให้ประเทศไทยมีโอกาส ในการแข่งขันมากขึ้น

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ทุกภาคส่วนตระหนักต่อการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ โดยเฉพาะเด็กพิการทุกคน โดยการมีส่วนร่วมจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นกิจกรรมสำคัญ สำหรับเด็กนักเรียนพิการทุกคนในประเทศไทย ที่จะช่วยเสริม เพิ่มข้อมูลการเรียนต่อ และทำให้นักเรียนพิการสามารถวางแผนการศึกษาต่อ ทำความฝันให้ชัดเจน งานนี้ไม่เพียงเป็นการสร้างพื้นที่ที่ให้เด็กพิการได้เรียนรู้ แต่ยังเป็นเวทีสร้างแรงบันดาลใจและเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้มองเห็นอนาคตของตนเองด้วยความหวังและความมั่นใจ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า เด็กพิการทุกคนมีศักยภาพ และความสามารถเฉพาะตัวที่มีคุณค่าการศึกษาอันเป็นกุญแจสำคัญ ในการปลดล็อกศักยภาพเหล่านั้น ช่วยให้เด็กพิการได้พัฒนาทักษะทั้งทางวิชาการและอาชีพ ทำให้สามารถยืนหยัดในสังคมและพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงศักดิ์กดิ์ศรีและคุณค่าของตนเอง

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวพม #วราวุธศิลปอาชา #พมหนึ่งเดียว #เด็กพิการเรียนไหนดี