วันนี้ (1 พ.ย.67 ) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟสายใต้ 1 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 1 (ผบก.อก.ภ.1) อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ต่อศาล ในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และกลั่นแกล้งให้ได้รับโทษทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีกลั่นแกล้งออกคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า วันนี้มาใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง กรณีที่ผมถูกกลั่นแกล้ง ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี บุคคลที่ฟ้องก็เป็นอดีต ผบช.ภ.2 เหตุผลสำคัญที่ผมใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องต่อศาล ก็ต้องการพิสูจน์ความจริง ต้องการทำความจริงให้ปรากฎต่อสังคม ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่ ผมเคยพูดในทุกเวทีกับสื่อมวลชนทุกครั้ง ทุกคน ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าทุกวันนี้ที่ผมสู้ เพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ได้ทำ
การชี้ถูกผิดเป็นเรื่องของผู้มีอำนาจหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นศาล หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช. อันนั้นผมไม่ก้าวล่วง แต่ทุกวันนี้ที่ผมพยายามสู้ เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เกิดกับผม ผมไม่ได้ทำ ผมเชื่อว่าความจริงก็คือความจริง มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ที่สำคัญ พวกเราโดยเฉพาะพี่น้องข้าราชตำรวจซึ่งอยู่ในสายงานของกระบวนการยุติธรรม ถ้าคุณไม่ยึดมั่น ไม่ยึดถือความถูกต้องเป็นหลักในการปฎิบัติหน้าที่ เมื่อไหร่คุณยอมก้มหัวให้กับอะไรที่ไม่ถูกต้อง ผมว่าคุณอย่าเป็นตำรวจ
เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้เขากลั่นแกล้งเรา เพราะอะไร พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ผมถามว่ากฎหมายห้ามไม่ให้ทำแล้วคุณทำ ผิดไหม เป็นคนไทยอ้างว่าไม่รู้กฎหมายได้ไหม แล้วคุณเป็นตำรวจ คุณอ้างว่าไม่รู้กฎหมายได้ไหม ไม่ใช่ว่าไม่ทักท้วง ทีมทนายความผมก็ทักท้วงแต่ต้นอยู่แล้ว เอกสารก็มี และพยานหลักฐานหลายอย่างผมก็ไม่ได้ไปหยิบยกหรือไปสร้างขึ้นมาเอง มีอดีตผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเอามาให้ที่ศาลอาญาเอง เอกสารที่เอามาใช้เป็นพยานหลักฐานในการฟ้องคดีนี้ก็ผ่านการรับรองจากศาลอาญามาแล้ว บางชิ้นผมก็ไม่ได้หามาเอง มีคนหามาให้ ส่งมาให้ ผมยืนยันว่าผมใช้สิทธิ์ทุกกรณี กับทุกคนที่ละเมิดต่อผม เมื่อถึงเวลาและโอกาสอันควร ผมใช้สิทธิ์ทุกกรณี ยืนยันเหมือนเดิม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหนก็แล้วแต่