“ก.ตร.ตงฉิน ”ชี้การแต่งตั้งนายพลสีกากี วาระประจำปี 2567 ต้องถอดบทเรียนเน้นระบบคุณธรรม ให้คำนึงถึง อาวุโส ความรู้และความสามารถ กำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งชัดเจนแน่นอน มิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบ ตำรวจต้องไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของบุคคลใด“
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้โพสต์ข้อความมีใจความระบุว่า นายกรัฐมนตรี แพรทองธาร ชินวัตร แต่งตั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามกฎเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและข้าราชการตำรวจ
เปิดประวัติศาสตร์การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง ที่แต่งตั้ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอาวุโสสุงสุดขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดั่งที่เคยเป็นธรรมเนียมในการปฏิบัติที่ดีงามมาโดยตลอด
ถอดบทเรียนจากการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมื่อปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงประชาชนเกิดวิกฤติศรัทธาต่อตำรวจอย่างมาก เกิดความเสียหายหลายประการ มีเรื่องร้องเรียนกล่าวหาค้างคามาจนถึงทุกวันนี้ ในเดือนพฤศจิกายน จะต้องดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกสองช่วง
โดยช่วงแรกประมาณกลางเดือน จะเป็นการแต่งตั้งระดับ พล.ต.ท.-พล.ต.อ. ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ยึดอาวุโสร้อยละ 100 สำหรับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้บัญชาการเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และร้อยละ 50 สำหรับรองผู้บัญชาการเป็นผู้บัญชาการ
ส่วนช่วงปลายเดือนจะเป็นการแต่งตั้งระดับพลตำรวจตรี โดยใช้หลักอาวุโสร้อยละ 50 สิ่งสำคัญที่ผู้มีอำนาจและผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจในการแต่งตั้งทุกระดับต้องตระหนักมีดังนี้
ประการแรกบริบทและเจตนารมณ์กฏหมายต่างๆไม่ว่า บทบัญญัตติในกฏหมายรัฐธรรมนูญ 2560 พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งตำรวจ 2567
”การแต่งตั้งตำรวจ ต้องเป็นไปตามระบบคุณธรรม ให้คำนึงถึง อาวุโส ความรู้และความสามารถ กำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งชัดเจนแน่นอน มิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบ ตำรวจต้องไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของบุคคลใด“
ประการที่สอง พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 กำหนดให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ(ก.พ.ค.ตร.)ขึ้นเป็นครั้งแรก
“ตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้ง สามารถร้องทุกข์ต่อคณะกรรมพิทักษ์คุณธรรมฯคำวินิจฉัยเป็นที่สุด เพื่อพิทักษ์คุณธรรมและเป็นที่พึ่งของตำรวจ”
ประการสุดท้าย ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจในการแต่งตั้ง หากไม่ได้ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์การแต่งตั้ง เป็นเหตุให้มีผู้ร้องทุกข์เกิดความเสียหาย ให้ถือว่าเป็นความผิดวินัยหรือผิดวินัยร้ายแรง ลงโทษได้โดยไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวน หรืออาจถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญาฐานกระทำการต่างๆโดยมิชอบ เกี่ยวกับการแต่งตั้งตำรวจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
ดังนั้นกระบวนการแต่งตั้งต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้เริ่มตั้งแต่การเสนอชื่อผู้ที่จะเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น จากผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดตามลำดับ เริ่มจากสถานีตำรวจ กองกำกับการ กองบัญชาการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(กรณีที่เคยปรากฏ มีการสั่งการ(ตั๋ว)จากผู้บังคับบัญชาระดับสูงไปยังผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดให้เสนอรายชื่อคนที่สั่งลงไปจึงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย)
การพิจารณาของผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต้องเป็นการประชุมในรูปคณะกรรมการ ร่วมกับ รองหัวหน้าหน่วยทุกคน มีการบันทึกรายงานการประชุม ตามข้อเท็จจริง ประกอบเหตุผลอ้างอิงต่างๆอย่างถูกต้อง
(กรณีที่เคยปรากฏ ผู้บังคับบัญชาจัดทำรายงานการประชุมโดยมิได้มีการประชุมจริง ให้ลงชื่อ หรือให้ลงชื่อในกระดาษแผ่นสุดท้ายโดยไปจัดทำรายงานการประชุมภายหลัง จึงเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย)
ผมหวังการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจที่จะเกิดขึ้นทุกระดับ จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป
ข้าราชการตำรวจที่ดี มีความรู้ ความสามารถ จะได้เจริญก้าวหน้า มีขวัญและกำลังใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อำนวยความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชน สมกับคำว่า“ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน”
#กู้คืนศักดิ์ศรีตำรวจดีของประชาชน
#กตรผู้ทรงคุณวุฒิ
#ตำรวจ ”เฟซบุ๊กดังกล่าว ระบุ
คลิกอ่าน..!!!
https://www.facebook.com/share/p/2i9xhujxW8r7PsHR/?mibextid=WC7FNe