ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับแก๊งอ้างเป็นตำรวจกองปราบ เรียกรับเงิน 100,000 บาท
แลกปล่อยตัวผู้ถูกจับ พบประวัติก่อเหตุมามากกว่า 10 ครั้ง
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ รอง ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ รอง ผกก.4 บก.ป.,พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์ รอง ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.เอนก บุญตา รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศิลาพันธุ์, พ.ต.ต.พัฒน์ คล้ายวัฒนะ สว.กก.4 บก.ป., ร.ต.อ.นุกล ใจอารี, ร.ต.อ.ธนัทเทพ สังกา รอง สว.กก.4 บก.ป., ร.ต.ต.ศรศักดิ์ แก้วแกลบ รอง สว.(ป.) กก.4 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม
1.นายกฤษณ์ฯอายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ จ.332/2567 ลงวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
2.น.ส.วิจิตราฯ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ จ.333/2567 ลงวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
3.นางคูณฯ อายุ 70 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ จ.334/2567 ลงวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
สถานที่จับกุม บริเวณ บ้านพักใน ม.8 ต.นากระแซง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี และ ริมถนน ใน
ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนกันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้ทำการจับกุม นายสุทีปฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่หลบหนี การจับกุม ในคดี “อุ้มฆ่าเสี่ยมาส” นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.นาสัก จ.ชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ระหว่างที่นายสุทีปฯ ถูกควบคุมตัว แก๊งคนร้ายทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้ติดต่อไปยังผู้เสียหายซึ่งเป็นญาติของนายสุทีปฯ โดยอ้างว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปราม สามารถช่วยเหลือทางคดี ให้ปล่อยตัวนายสุทีปฯ ได้ โดยแลกกับเงิน จำนวน 100,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินให้กับคนร้ายตามที่คนร้ายบอก
ซึ่งต่อมาทราบว่าถูกหลอก จึงไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ พนักงานสอบสวน สภ.กะปาง และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้ร่วมกับ พนักงานสอบสวน สภ.กะปาง ทำการสืบสวนหาตัวแก๊งคนร้าย จนทราบว่าแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายกฤษณ์ฯ กับพวก ที่ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของนายกฤษณ์ฯ พบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้ว 12 คดี (ก่อเหตุในหลายท้องที่ มีผู้เสียหายหลายราย) อีกทั้งยังพบว่าแก๊งคนรายนี้ เคยติดต่อไปยังญาติของผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จับกุมพร้อมของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 13 ล้านเม็ด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 โดยแก๊งคนร้ายหวังหลอกเอาเงินผู้เสียหาย แลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับ เคราะห์ดี ที่ครั้งนี้ยังไม่มีผู้เสียหายโอนเงินไป
พนักงานสอบสวน สภ.กะปาง ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดทุ่งสง ออกหมายจับแก๊งคนร้าย และ ศาลจังหวัดทุ่งสงอนุมัติหมายจับแก๊งคนร้ายทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. จึงได้สืบสวนติดตามจับกุม และสามารถจับกุม นายกฤษณ์ฯ กับนางคูณฯ (แม่ยายของนายกฤษณ์ฯ) ได้ที่ จ.อุบลราชธานี และนางวิจิตราฯ ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการ ได้ที่ จ.ระยอง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.กะปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจากการตรวจสอบนายกฤษณ์ฯ ยังพบว่ามีหมายจับศาลจังหวัดตาก ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” ติดตัว อีก 1 หมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เบื้องต้นให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา