” ทางที่สูงและชันแม้จะเดินลำบากจนบางครั้งแทบถอดใจ แต่พอเดินขึ้นไปถึงแล้ว บนนั้นสวยงาม จนเราลืมความเหนื่อยล้าและแอบภูมิใจว่าในที่สุดเราก็ทำสำเร็จ “
เมื่อวันที่ 1กันยายน ที่ผ่านมา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามของน้ำตกทีลอซูได้แล้ว รองเท้าแก้ว ได้มีโอกาสไปเยือนน้ำแห่งนี้มาแล้วเมื่อ2-3ปีก่อน จึงอยากจะมาบอกต่อความสวยงามและอลังการของน้ำตกทีลอซู ที่รองเท้าแก้วยกให้เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ และอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสไปเยือนสักครั้งในชีวิต เพราะสามารถเดินทางไปได้ทั้งทางบกและทางเรือ เรียกว่าค่อยข้างจะไปง่าย
แต่ก่อนที่จะไปชมน้ำตกทีลอซูรองเท้าแก้วจะพาทุกคนเดินเข้าป่าลึกไปสัมผัสน้ำตกที่สวยไม่แพ้กัน คือ น้ำตกปิตุ๊โกร ว่ากันว่าที่แห่งนี้คือ“หัวใจแห่งขุนเขา” เพราะเรื่องเล่าในทริปนี้เต็มไปด้วยความประทับใจหลายอย่าง และยังอยู่ในความทรงจำ ขอนำมาบอกต่อทุกคน ทริปนี้มีเวลาเตรียมตัวไม่นานเรียกว่าปุ๊บปับทัวร์กันอีกแล้วเลยต้องมาหาที่พักเอาดาบหน้า
“ไข่ไก่มันจะสักกี่บาทกันเชียว” ลุงสิงห์เจ้าของคำสิงห์โฮมสเตย์” ที่อุ้มผาง จว.ตาก เอ่ยกับป้าเป้า ภรรยา ที่ต้องใช้ไข่ไก่ เนื้อไก่ หรือวัตถุดิบดีดีมาปรุงอาหารให้กับแขกที่มาพักที่โฮมสเตย์
21 ตุลาคม 63 ย้อนไปบ่ายแก่ๆวันแรกที่เราไปถึงที่อุ้มผาง โดยไม่ได้วางแผนเรื่องที่พักก่อนจะเข้าพักที่ คำสิงห์โฮมสเตย์ เราเปิดอากู๋ค้นหา10ที่พักที่ดีที่สุดในอุ้มผาง และสุ่มโทรไปประมาณ2-3ที่ แต่ราคาและที่พักก็ยังไม่ถูกใจ กระทั่งเจอเบอร์โทรคำสิงห์โฮมสเตย์ ที่มีคนรีวิวไว้ใน Pantip เราโทรไปสอบถามว่ามีที่พักว่างไหม เสียงปลายสายเป็นผู้หญิงวัยกลางคน บอกว่ามีที่พักแต่ย้ำหลายครั้งว่า “เป็นห้องพัดลมนะ” มีอาหารเช้าบริการ ราคาละ 300 บาท ด้วยความที่พวกเราไม่เคยซีเรียสเรื่องพัดลมหรือห้องแอร์(จริงๆก็เห็นว่าราคาไม่แพงนั่นแหละ) จึงขอเข้าไปดูห้องก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที
“เราถามทางมาจนถึงที่คำสิงห์โฮมสเตย์ความรู้สึกประทับใจแรก ก็เกิดขึ้นเพราะมองเห็นกล้วยเครือใหญ่สุกเหลืองน่ากินแขวนไว้ต้อนรับแขกผู้มาเยือน เมื่อเดินเข้าไปภายในบ้านเราก็เจอกับเจ้าของเสียงปลายสาย(ป้าเป้า) และลุงแก่ๆคนหนึ่งที่กำลังนั่งง่วนอยู่กับการเตรียมของขึ้นไปแค้มป์ ก่อนจะรู้ว่าเป็น”ลุงสิงห์” เจ้าของโฮมสเตย์ ก็ตอนป้าเป้าเรียก “พี่สิงห์ๆ” นั่นแหละ 555″
เราสอบถามเรื่องที่พักและราคาทัวร์ ไปเที่ยวน้ำตกทีลอซู และถามถึงน้ำตกเปรโต๊ะลอซู หรือ น้ำตกรูปหัวใจ (อยู่นอกแผน)ซึ่งป้าเป้าเล่าว่าน้ำตกปิตุ๊โกรจะปิดสิ้นเดือนนี้ เพราะโควิดและน้ำเริ่มน้อยแล้ว แต่ยังเที่ยวได้อยู่ ถ้าคณะเราจะไปปิตุ๊โกรด้วยคิดคนละ 3,900 บาท เราปรึกษากันพักหนึ่งก่อนจะตอบตกลงและเตรียมเก็บกระเป๋าขึ้นไปบนแค้มป์พร้อมลุงสิงห์ในเช้าวันรุ่งขึ้น …
เช้านี้ คำสิงห์โฮมสเตย์ เสิร์ฟไข่เจียวหนา กรอบ นุ่ม กลิ่นหอมฟุ้ง พร้อมกับผัดผักบล็อคเคอรี่&แครอท แพนงหมู หน้าตากับข้าวทุกอย่างน่ากินสุดๆและรสชาติกับข้าวมื้อแรกก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง สมาชิกในทีมบอกว่ากับข้าวอร่อยทุกอย่าง รสชาติภาคกลาง แม้จะรู้ว่าแม่ครัวนอกจากป้าเป้าแล้ว เป็นฝีมือสาวพม่าแท้ๆก็ตาม
เราออกเดินทางพร้อมกับได้ข้าวห่อใบตองเป็นมื้อกลางวันจากป้าเป้า มุ่งหน้าไปที่น้ำตกเปรโต๊ะลอซู หรือน้ำตกรูปหัวใจ ที่อยู่ห่างจากแค้มป์กลางป่าไป ประมาณ 3 กม.การเดินทางมาถึงที่แค้มป์ต้องเดินผ่านไร่นาป่าเขา ทางที่แสนจะทุลักทุเล เพราะบางช่วงต้องเดินผ่านลำธารและลุยโคลน เรามาถึงที่แคมป์จัดการกางเต็นท์ และพักเหนื่อยเอาแรง ก่อนที่ไกด์หนุ่ม นามว่า ไข่ทอด จะพาไปเราเดินไปเที่ยวที่น้ำตกรูปหัวใจ
น้ำตกปิตุ๊โกร เป็นหัวใจแห่งอุ้มผาง ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ใกล้กับยอดเขาดอยมะม่วงสามหมื่น ติดกับเขตรอยต่อชายแดนไทย-เมียนมา ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาสีเขียวขจี สดชื่นเย็นสบาย ยังคงมีความเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ส่วนใหญ่เรามักจะได้ยินชื่อเรียกน้ำตกแห่งนี้หลากหลายชื่อ บ้างก็เรียกน้ำตกปิตุ๊โกร บ้างก็เรียกน้ำตกเปรโต๊ะลอซู หากแต่ชาวบ้านท้องถิ่นจะเรียก “ปิตุ๊โกร” เสียมากกว่า ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นปกาเกอะญอ ปิตุ๊ แปลว่า กระท่อม และ โกร แปลว่าลำห้วยนั่นเอง
น้ำตกปิตุ๊โกร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในป่าลึก ธรรมชาติรอบด้านยังคงสวยงาม และที่สำคัญคือมีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ โดยเฉพาะในฤดูฝนจะมีสายน้ำมากมายหลั่งไหลพรั่งพรูลงมาจากตาน้ำบนยอดเขาดอยมะม่วงสามหมื่น ผ่านหน้าผาหินลงมาตามช่องผาหลัก 2 สาย เมื่อมองดูไกล ๆ จะเห็นผืนป่าสีเขียวที่อยู่รอบ ๆ ตัดกับสายน้ำที่เป็นรูปหัวใจสีขาวงดงาม สูงจากด้านบนลงไปยังแอ่งน้ำด้านล่างมากถึง 500 เมตร แม้ว่าจะยืนอยู่ไกล ๆ ก็ยังโดนน้ำที่กระเซ็นมาจากน้ำตก จริงๆแอบรู้สึกโชคดีที่บนแค้มป์มีแค่คณะเราที่ไป น้ำตกเลยมีแค่เรา4-5คน เดินถ่ายรูปกันจนพอใจก็กลับมาถึงแค้มป์ตอนเย็น อาบน้ำที่ลำธารเตรียมกินมื้อเย็นกันต่อ
พรุ่งนี้เรายังมีภารกิจเดินขึ้นเขาไปพิชิตยอดดอยมะม่วงสามหมื่น ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลราว ๆ 1,600 เมตร ห่างจากจุดตั้งแคมป์แรกที่อยู่ใกล้น้ำตกปิตุ๊โกรประมาณ 9-10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 4-5 ชั่วโมง การเดินทางจะเป็นอย่างไรนั้นติดตามในครั้งต่อไปครัช
– รองเท้าแก้ว –