ดรามาสนั่น..!!! จับรถขนของช่วยน้ำท่วม-ตลาดพม่า ตำรวจโดนอ่วม-แนะรัฐบาลยกเครื่องทั้งระบบ

771



สัปดาห์นี้มีดรามาสนั่นโซเซียลอย่างน้อย 2 เรื่องที่ตำรวจตกเป็นจำเลยให้พวกเกรียนคีย์บอร์ดกระหน่ำแบบเต็มๆ


เรื่องแรกเทียบได้กับประเภทฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ผู้ใช้ติ๊กต๊อกรายหนึ่งโพสต์ว่ารถบรรทุกสิ่งของไปช่วยน้ำท่วมผู้ประสบภัยที่เชียงใหม่และเชียงราย โดนจับบรรทุกน้ำหนักเกิน ผู้ประสบภัยปลายทางยังรอความช่วยเหลือ แต่รถไม่สามารถออกจากโรงพักพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ได้ มนุษยธรรมไม่ต้องมีด่านน้ำหนักพยุหะคีรีทำงานดีมาก

ปรากฏว่าชาวเน็ตแสดงความเห็นเชิงประชดประชันจำนวนมาก อาทิ เขาไปช่วยน้ำท่วม จับเขาเพื่อ เจ้าหน้าที่ด่านต้องการอะไรค่ะ มาจับตอนนี้นครสวรรค์ดังแล้ว และตำรวจคงภูมิใจในสิ่งนี้ เป็นต้น จากความเห็นที่กระหน่ำกัน พอจับความได้ว่าตำรวจคือผู้กระทำ

จนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(บก.ภ.จว.)นครสวรรค์ ต้องออกมาชี้แจงว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวบรรทุกสิ่งของจากมูลนิธิการกุศลจังหวัดสมุทรสาครถูกจับกุมเนื่องจากบรรทุกน้ำหนักเกินถูกส่งไปที่ สภ.พยุหะคีรี ซึ่งจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ของสถานีตรวจสอบน้ำหนักพยุหะคีรี ไม่ใช่ตำรวจจับกุมรถคันที่ถูกจับกุมเป็นรถบรรทุกหกล้อ เข้าชั่งที่ด่านตรวจน้ำหนัก รวมน้ำหนักบรรทุก 18,420 กิโลกรัม ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดสำหรับรถประเภทนี้ 3,420 กิโลกรัม

หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ของสถานีตรวจสอบน้ำหนัก นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี ดำเนินคดี เมื่อพนักงานสอบสวนรับตัวผู้ขับขี่พร้อมรถบรรทุกของกลางไว้แล้ว และทราบว่าเป็นรถบรรทุกสิ่งของอุปโภคบริโภคนำไปช่วยผู้ประสบภัย จึงได้อำนวยความสะดวกปล่อยตัวผู้ขับขี่ชั่วคราวพร้อมให้นำสิ่งของบางส่วนลงเพื่อไม่ให้นำหนักเกินกฎหมายกำหนด แล้วจัดรถนำเส้นทางรถบรรทุกสิ่งอุปโภคบริโภคไปส่งยังจุดหมายเรียบร้อยแล้ว

กว่า บก.ภ.จว.นครสวรรค์ จะออกมาชี้แจงตำรวจโดนพวกเกรียนคีย์บอร์ดที่ขาดวุฒิภาวะและขาดความรอบรู้ถล่มจมเขี้ยว โดยไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ประจำด่านน้ำหนักนั้นคือเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก

เรื่องที่ 2 น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน หารือในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาในพื้นที่ว่า เขตบางบอนมีตลาดพม่า-บางบอน มีคนไทยและเมียนมาตั้งแผงขายของ มีแรงานเมียนมา ใช้บริการจำนวนมาขนาดเรียกลูกค้าและขึ้นป้ายเป็นภาษาเมียนมาทั้งหมด

“ดิฉันได้รับการร้องเรียนว่ามีแรงงานเมียนมาเป็นเจ้าของแผง ซึ่งเป็นอาชีพต้องห้ามสำหรับแรงงานต่างด้าว เมื่อลงพื้นที่ถามแม่ค้าคนไทยที่ขายของว่า แผงที่ตะโกนภาษาพม่าเป็นเจ้าของแผงหรือลูกจ้าง คนไทยบอกว่าไม่กล้าตอบเพราะตอบแล้วกลัวเดือดร้อน” น.ส.รักชนกระบุและว่า ยังพบป้ายห้ามถ่ายรูป ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแล้ว ก็พบการกระทำผิดอยู่เนืองๆ แทนที่จะบังคับใช้กฎหมายกลับมารีดไถเก็บส่วย ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า เจ้าหน้าที่รัฐส่วนใหญ่จะเข้ามารีดไถ เก็บส่วย มาไถทอง ไถแหวน ไถตุ้มหู ไถสร้อย ของชาวพม่า ถ้าไม่ถอดให้จะเดือดร้อน มีการข่มขู่สารพัด การกระทำที่อุกอาจทั้งหมดนี้เป็นจุดตรวจสอบ สน.บางขุนเทียน อยากให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

น.ส.รักชนกระบุอีกว่า ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน แต่ถ้าผิดกฎหมายต้องจัดการ การที่ภาครัฐปล่อยปละละเลย คนไทยต้องอยู่แบบตั้งคำถามว่าจะจัดการกี่โมง ขอให้รัฐบาลเข้ามาบังคับใช้กฎหมายด้วย

ประเด็นนี้สื่อโซเซียลนำไปขยายความอย่างกว้างขวาง ตำรวจโดนหนักสุด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจท้องที่หรือตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วมีเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานสามารถที่จะดำเนินการได้ไม่ว่าจะเจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่แรงงานและเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่กลับละเลย อาจจะเป็นเพราะมีสินบนบังตาหรืออาจจะเป็นเพราะเจ้าของตลาดเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่หรือเจ้าของตลาดซุกอยู่ใต้ปีกของผู้มีอิทธิพล

ถ้ามองโดยองค์รวมคงหนีไม่พ้นว่าเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยอยู่กันแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แต่เมื่อมีการร้องเรียนตำรวจจะกลายเป็นหนังหน้าไฟเพราะมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายโดยตรง ทั้งที่ทุกหน่วยต่างรับประโยชน์พอๆกัน เหตุการณ์เมียนมายึดแผงค้าในตลาดไม่ได้มีแค่พื้นที่บางบอน แต่มีอยู่ตามตลาดเกือบทั่วประเทศ เพื่อขจัดปัญหาดังกล่าวและจัดระเบียบให้ต่างด้าวอยู่ในกฎระเบียบ จะหวังพึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพียงหน่วยเดียวคงจัดการลำบาก


ดังนั้นเพื่อให้ปัญหาดังกล่าวถูกจัดการอย่างเป็นรูปธรรม รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพระดมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหาแบบบูรณาการติวเข้มให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง

ทั้งสองกรณีที่ยกมาเป็นตัวอย่างต่างมีหน่วยงานรัฐเกี่ยวข้องมากว่า 2 แห่งที่สร้างปัญหา แต่ที่โดนสื่อโซเซียลถล่มหนักกลับเป็นตำรวจเพียงหน่วยเดียว หากรัฐบาลยังนิ่งเฉยปล่อยปัญหาให้ไหลไปเรื่อยๆองค์กรตำรวจจะไม่แตกต่างกับกระโถนท้องพระโรง !!!