ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกัน

490

ช่วงนี้สภาพภูมิอากาศมักมีฝนตกหนัก มีพายุ พี่น้องประชาชนในหลายจังหวัดมีทั้งผู้ประสบภัยและต้องฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านเรือนจากอุทกภัย หลายครอบครัว สิ้นเนื้อประดาตัว หลายครอบครัวต้องสูญเสียที่อยู่อาศัย หลายครอบครัวเข้าขั้นวิกฤต

แต่ก็ยังมีอีกหลายครอบครัวที่ดูจะดีอกดีไม่น้อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในสภาวะการณ์ที่ส่งลูกหลานหรือคนในสายโลหิตตัวเองเป็นรัฐมนตรี มีเกียรติประวัติศักดิ์ศรีในเชิงบารมีส่วนตัว แต่หัวประชาชนไว้ทีหลัง?

เพราะไล่กันมาตั้งแต่นายกรัฐมนตรีที่มีเงาชัดอยู่ข้างหลังยันรัฐมนตรีช่วยหลายกระทรวงเช่น ซาบีดา บุตรสาวชาดาที่นั่ง รมช.มท.แทนบิดา เพราะคาดว่าสาเหตุติดกับดักหวั่นซ้ำรอยนายกฯจะถูกสอยได้ในภายภาคหน้า หรือ อัครา น้องชายธรรมนัสนั่ง รมช.เกษตรฯ เพราะเหตุคล้ายๆกันยังนับรวมไปถึง รมช.อิทธิ มานั่งเก้าอี้แทนลูก เราเลยเห็นร่องรอยของการสืบทอดอำนาจ ที่มีบางคนใช้คำแรงล้อเลียนซีรีส์ดังอย่าง “สืบสันดาน”กันด้วยซ้ำ แต่หลักใหญ่ใจความคงหนีไม่พ้นการตอบแทนโควต้า บ้านใหญ่และนามสกุลดัง โดยที่ไม่สนใจวุฒิหรือประสบการณ์ที่จบมาตรงกับหน้างานที่รับผิดชอบหรือไม่ คนเหล่านี้ได้ชื่อว่าเป็น “ท่านรัฐมนตรี” มีคนรายล้อม ได้เปิดงาน ได้มีรถนำ ได้รับการต้อนรับ ได้ถูกให้เกียรติ เพียงไม่กี่วินาทีก็ถือว่าฟินสุด ๆ แล้ว

แต่ตามที่หลายคนพร่ำบอกว่ารัฐบาลนี้ไม่มีฮันนีมูนพีเรียด เพราะมีเรื่องซีเรียสรออยู่มากมาย แถมเรียกได้ว่ายังไม่ได้มาเริ่มทำงานก็ถูกท้าทายกันพอสมควร และทุกคนมองไม่เห็นหัวจริงๆของรัฐมนตรี เพราะทุกคนล้วนมีโฟกัสใหม่ ๆ คือเงาของบิดา ว่าชักใยครอบงำอะไรหรือไม่ ?

ย้ำอีกครั้งว่าปัญหาประเทศไทยวันนี้รอการแก้ไขหลายเรื่องมากทั้งหนี้สิน หนี้ครัวเรือน กำลังซื้อ คุณภาพชีวิตค่าครองชีพ โครงสร้างทางกฎหมาย ปัญหาสภาวะโลกเดือด(เกินกว่าโลกร้อน) ปัญหาแรงงานข้ามชาติ ปัญหาอาชญากรรม ฯลฯ ทั้งหมดถามสั้นๆ คำเดียว คิดว่าบุคคลเหล่านี้ที่เพิ่งมามีตำแหน่งกันจะสามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าตจัดการได้จริงหรือไม่?

เพราะลำพังย้อนความทรงจำเกือบ1ปีของอดีตเซลล์แมนชื่อเศรษฐา ก็ทำให้เห็นภาพแล้วว่ามีอะไรดีขึ้นบ้าง? ประชาชนกลายเป็นผู้มีคุณค่าเวลาหาเสียงต้องการคะแนนเท่านั้นหรือไม่ แล้วตกลงใครคือคนที่รัฐบาลทำงานให้จริง ๆ อันนี้คนอ่านต้องตัดสินเอาเองนะครับ

นี่คอลัมน์ยังไม่ทันได้พูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ที่สองทศวรรษเอาเป็นเอาตายกับพรรคเพื่อไทยทั้งฟ้องร้อบมีคนติดคุก มีการประจาน มีการแฉ มีการใช้วิธีการสกปรก สงครามน้ำลาย จะฆ่ากันเอาเป็นเอาตายมาตลอดเกือบ20ปี มีการแย่งเก้าอี้ประธานสภา ปาแฟ้ม ตะโกนกันอย่างไร้เกียรติ มีการลงถนนขับไล่ มีการกล่าวหาสารพัด วันนี้ร่วมงานทางการเมืองกันได้เฉย ถามจริงๆ เถอะครับท่านผู้อ่านเชื่อหรือว่ามาร่วมงานเพราะเอา “ผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน”เป็น “ตัวตั้ง” เอาวิสัยทัศน์แพชชั่นมาเป็นแรงขับเคลื่อน? หรือทั้งหมดหน้าฉากวันนี้มีการตกลงกันไว้หลังฉากหมดแล้ว?

นี่ยังไม่กล่าวถึง “เอกนัฎ”ที่เป็นเสมือนลูกรักของนายสุเทพ ที่เป็นกล่องดวงใจดาวดวงน้อยของ กปปส. 10ปีที่แล้วไล่ยิ่งลักษณ์ ด่าทักษิณไม่มีชิ้นดี มาวันนี้สามารถนั่มองหน้ากันได้ในโต๊ะ ครม.เดียวกัน นี่มันละครหลังข่าวหรืออะไรกันแน่ครับ

ที่ยกมาทั้งสองกรณีทั้ง ปชป. ทั้ง กปปส.ที่เคนจะเป็นจะตายกับทักษิณวันนี้เสมือนคนสูญสิ้นความทรงจำ ซีรีบรัม (cerebrum) หรือส่วนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสมอง ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจำ การคิด สติปัญญา การตัดสินใจ ความมีเหตุผล การพูด การเคลื่อนไหว การรับรู้ การตอบสนอง และอื่น ๆ หายไปซะงั้นจากคนเหล่านี้ คนที่พาประเทศไปติดหล่มรัฐประหาร คนที่เคยต่อต้านขัดขวางการลือกตั้ง คนที่เป็นส่วนสำคัญให้ประเทศนี้ติดกับดักโดยไม่สนว่าประชาชนเป็นยังไง ทำให้เสียเวลาไปเกือบ10ปีจากนายกฯหรือคนที่ทำงานไม่เป็น

แต่ไหนๆก็พูดถึงละครแล้ว การเมืองไทยในวันนี้ที่มีการหลอมรวม กอดกันหลวมๆเพื่อสู้กับการเมืองใหม่ ผมดันไปนึกถึงชื่อละครเรื่องนึงเมื่อปี 2543 ทางช่องสาม ชื่อว่า “ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกัน”กรุณาอ่านชื่อละครตามนี้ อย่าไปเป็นคำใด ๆ ในชื่อละครนะครับ!!