ศึกนายก อบจ.ปทุมธานี”ชาญ”ไร้แวว”กกต.”รับรอง นักพนัน เปิดวงเดิมพันเงินสะพัด

776



      ในห้วงที่ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังฟอร์มคณะรัฐมนตรี(ครม.) เกิดปรากฏการณ์ฟัดกันนัวในพรรคการเมืองที่ขอร่วมรัฐบาลแบบที่ไม่เคยเกิดมาก่อนเสมือนอาการของพวกแย่งชามข้าว ผลจะลงเอยแบบไหนหน้าตา ครม.จะมีแต่เสียงยี้หรือสร้างความหวังให้ประชาชนต้องลุ้นยาวถึงต้นเดือนกันยายนเลยทีเดียว

    “จอมมารน้อย”ไม่ขอแสดงความเห็นใดๆนอกจากเฝ้าดูมหกรรมฟัดแย่งชามข้าว แต่ขอนำเสนอประเด็นที่อยู่นอกกระแสที่คอการเมืองแทบจะลืมไปแล้วนั่นคือการรับรองผลเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปทุมธานี ที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ค่ายเพื่อไทยชนะเลือกตั้งมากว่า 1 เดือนแล้วแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ยังไม่รับรองผลเลือกตั้ง

ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะนายชาญ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี เกี่ยวกับจัดซื้อถุงยังชีพในปี 2555 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งประทับรับฟ้อง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลก็เป็นได้

        ประกอบกับนักกฎหมายและนักวิชาการมีความเห็นในทำนองเดียวกัน คือศาลอาญาฯมีคำสั่งประทับรับฟ้อง ช่วงนายชาญ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกอบจ.ปทุมธานีก็ตาม แต่เมื่อได้รับเลือกตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งเดิมอีกวาระ นายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561


      หรือความเห็นของนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่าแม้จะกลับมารับตำแหน่งใหม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งวัตถุประสงค์ของคำวินิจฉัยกฤษฎีกาให้เหตุผลไว้แล้วว่าหากถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากป.ป.ช.มีคำสั่งชี้มูล ถึงแม้ระหว่างนั้นพ้นตำแหน่งไปแล้ว และถูกเลือกตั้งเข้ามาใหม่ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากเข้าไปดำรงตำแหน่งใหม่อาจจะไปยุ่งเหยิงกับคดีที่ผ่านมา และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น เป็นไปตามหลักกฎหมายปกติ    

    “กรณีนี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อัตโนมัติโดยไม่ต้องมีหน่วยงานใดชี้ เพราะเป็นผลพวงทางกฎหมาย ส่วนผู้ทำหน้าที่แทนนายกอบจ.คาดว่าจะเป็นปลัดอบจ.”

นายปกรณ์ระบุและว่าหากนายชาญไม่เชื่อ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จะเป็นคนชี้เพราะอำนาจหน้าที่การเข้าสู่ตำแหน่งและการปฏิบัติหน้าที่

    จากเสียงท้วงติงบวกกับมีการไปร้องให้กกต.ตรวจสอบถึงคุณสมบัติของนายชาญ ทาง กกต.จึงดำเนินการตรวจสอบและไต่สวนเสร็จสิ้นแล้วอยู่ระหว่างกกต.กลางพิจารณา แต่ระหว่างรอลุ้นกกต.กลาง เกิดปรากฏการณ์พิสดารพันลึกของบรรดานักพนันในพื้นที่ปทุมธานี ด้วยการตั้งโต๊ะรับแทงพนันว่าด้วยเงื่อนไขว่ากกต.กลางจะรับรองนายชาญหรือไม่และกกต.จะยกคำร้องหรือไม่ การเดิมพันครั้งนี้เชื่อว่านายชาญไม่ได้เกี่ยวข้อง คงเป็นการดำเนินการของบรรดาเซียนพนันมากกว่า

       จากการตรวจสอบข่าวในพื้นที่พบว่าเคลื่อนไหวกันเป็นกระบวนการมีการจ้างอดีตกกต.ในพื้นที่เป็นที่ปรึกษา โดยอดีตกกต.ได้ติดต่อประสานงานกับที่ปรึกษา 1 ใน 7 กกต. ซึ่งที่ปรึกษาคนนี้เคยเป็นกกต.ปทุมธานีมาก่อนโดยที่ปรึกษาคนนี้จะทำหน้าที่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่กกต.กลาง 2 คน มีการเจรจาขอให้คณะกรรมการไต่สวนสรุปผลสอบให้ออกไปในทางยกคำร้องแล้วรับรองผลการเลือกตั้งตามที่กฎหมายกำหนด แต่คณะกรรมการไต่สวนมีความเห็นว่ากระทำผิดกฎหมายจริง จึงไม่ยอมปฏิบัติตาม แต่เพื่อให้วงพนันคึกคักคณะบุคคลที่ทำหน้าประสานฯเห็นว่าคณะกรรมการไต่สวนไม่เล่นด้วยจึงเปลี่ยนแผน หันไปพึ่งพากกต.จังหวัดบางคนให้มีความเห็นแย้ง ด้วยการลงความเห็นต่อท้ายสำนวนให้ยกคำร้องเสนอต่อกกต.กลาง


ในวันที่ 16 สิงหาคม สำนวนไต่สวนส่งไปถึงกกต.กลาง มีเจ้าหน้าที่กกต.กลาง 2 คนที่มีการประสานงานไว้ตั้งแต่ต้นดำเนินการประสานในทุกขั้นตอนให้เสนอยกคำร้อง อีกทั้งเร่งรัดให้นำสำนวนให้อนุกรรมการไต่สวนพิจารณายกคำร้อง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กกต.ที่ทำหน้าที่คอยประสานงานทุกขั้นยังทำบันทึกลงวันที่ 22 สิงหาคม ถึงกกต.กลางเร่งรัดให้รับรองผลโดยเร็ว

   ในช่วงเวลาที่ติดต่อประสานงานเพื่อให้เป็นไปตามที่เจ้าของโต๊ะพนันต้องการมีการจ่ายปัจจัยตลอดเส้นทางเป็นน้ำหนักถึง 20 กิโลกรัม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่วนหนึ่งได้มาจากการเปิดรับแทงพนัน นอกจากเงื่อนไขในการรับแทงพนันว่ายกคำร้องหรือไม่ยกคำร้อง ยังมีการเปิดแทงพนันผลตัดสินทุจริตถุงยังชีพว่าหลุดหรือไม่หลุดอีกด้วย ในวงนี้มีการเปิดรับแทงวงเงินสูงถึง 40 ล้านบาท และนำเงินส่วนนี้ไปดำเนินการเพื่อการประสานงานอีกด้วย

    ข้อมูลเหล่านี้จะจริงหรือเท็จประการใด ก่อนที่กกต.กลางจะพิจารณาชี้ขาดน่าจะส่งชุดสืบสวนลงไปหาข้อมูลมาประกอบ เพราะมีปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องถึง 60 กิโลกรัม และมีขบวนวิ่งเต้นที่แฝงมากับการตั้งโต๊ะพนันบังหน้า หากพิจารณาไม่รอบคอบรอยราคีจะตกอยู่ที่กกต.กลางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เครดิตที่ค่อนข้างติดลบอยู่แล้วยิ่งติดลบหนักถึงขั้นขาดความน่าเชื่อก็เป็นได้ !!!