ไม่อยากเห็นรัฐบาล “พ่อแม่รังแกฉัน”

379

เผลอแป๊ปเดียวประเทศไทยมีนายกฯคนใหม่ แต่ว่าเป็นนายกฯ ที่มีผลและอิทธิพลจาก“นายกฯคนเก่า”ที่ปากบอกไม่ได้ครอบงำแต่ดันทำทุกอย่างเหมือนบริหารเอง แบบไม่เกรงกลัวกฎกติกา

จนล่าสุดก็เปิดช่องให้คนจ้องจะเล่นเอาไปยื่นเรื่องเป็นประเด็นต่อไป นายกฯในนามในนิตินัยและนายกฯโดยพฤตินัย จึงอาจจะกลายเป็น “ชนวนใหญ่”ให้นักร้องหาช่องโหว่ได้ทุกจุด ย้ำว่าทุกจุด!! ทั้งๆที่วันนี้ประเทศไม่มีเวลาที่จะรีรอการสะดุดใดๆได้อีกแล้ว

ที่กล่าวเช่นนี้เพราะประเทศไทยในช่วงเวลานี้ตามที่คอลัมน์ครุ่นคิดนำเสนอมาตลอดคือมีปัญหาทับถม หมักหมมเป็นเวลานานนับทศวรรษที่รอวันพังทลายลงมาเท่านั้น ทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน ปัญหาสังคมรอบด้าน ปัญหาเศรษฐกิจที่มีพิษจากทั้งในและต่างประเทศ ทุกปัญหาไม่มีเวลาสำหรับการทดลองานอีกต่อไปแล้ว หลังจากนี้คือการแก้ปัญหาอย่างจริงจังและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ทำให้ประเทศเป็นที่สนอกสนใจของต่างชาติในการเข้ามาลงทุน และมองเห็นอนาคต

คำถามคือใครมันจะอยากไปลงทุนในประเทศที่อยู่ดี ๆนายกฯถูกสอยง่าย ๆ พรรคการเมืองถูกยุบเป็นว่าเล่น และนายกฯจริงๆ มีกี่คนและใครคือคนมีอำนาจตัวจริงสิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนเสถียรภาพความมั่นคงต่อเนื่องในการทำและขับเคื่อนนโยบายให้ประเทศชาติทั้งนั้น

เกมแห่งอำนาจนี้มันน่าหอมหวานขนาดไหน ก็ถึงขนาดที่ว่าทำให้การแบ่งเก้าอี้ดนตรีแย่งที่นั่งกันใน ครม.ตีกันไม่อายฟ้าไม่อายดินไม่เห็นหัวประขาชน ที่เสนอหน้ากันเข้ามาถามว่าคนมีความชำนาญตามกระทรวงหรือหน้างานนั้นๆ มีประสบการณ์จริงๆจังๆที่ช่วยประเทศชาติได้ตรงจุด เกาได้ถูกที่คัน ผมท้าให้ไปนับได้เลยว่ามีน้อยไปจนถึงไม่มี!

กลับไปที่ตำแหน่งสำคัญ นายกฯที่วันนี้เราควรจะดีใจที่ได้ผู้นำคนรุ่นใหม่อายุน้อย แต่ทำไมหลายคนรีบออกมาด้อยค่า อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาคำมั่นสัญญาที่เธอและพรรคของเธอให้ไว้ ยังทำไม่ได้สักอย่าง? ต่างจากมนตร์ขลังแบบ20ปีก่อนตอนที่บิดาของเธอทำได้สำเร็จ โลกที่หมุนไป โลกาภิวัฒน์ารสื่อสารก้าวหน้า digitalมฉ มีหลักฐานต่างๆเต็มไปหมด บวกับบริบทสังคมการเมืองเปลี่ยนไปคนต้องการความเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจากการกดทับ ที่รัฐบาล10ปีที่ผ่านมาไม่ได้พาประเทศไปทางไหนที่ควรจะต้องไป ทำให้วันนี้ “นายกฯน้อย”ถูกท้าทายและคาดหวังอย่างรุนแรงและรวดเร็วและทุกฝีก้าวทุกคำพูดที่ออกมาจากปากจะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องระมัดระวังอย่างสูง อย่างการไปช่วยน้ำท่วมี่มีอำนาจจำกัด(ต้องรอตั้ง ครม.จากนั้นถวายสัตย์ และแถลงนโยบายก่อนจึงทำงานจริงจังอำนาจเต็มได้)ก็กลายเป็นถูกจับผิดทุกฝีก้าว 

แต่คนที่ไม่ระวังเลยก็น่าจะเป็นบิดาของเธอเอง ที่เก็บทรงไม่ได้ เก็บอาการไม่อยู่ ความสงบปากสงบคำทำไม่เป็นยังคงท้าทาย ทำให้บรรยากาศการเมืองอยู่ในวังวนเก่าๆ ทำตัวมีอำนาจมาก แต่วันนี้ลืมไปว่าประชาชนจำนวนมากไม่ได้รักและศรัทธาอย่างเก่าแล้ว พูดทุกอย่างด้วยความมั่นใจแม้ว่า“ไร้สถานะทางกฎหมาย” ดังนั้นการจะขุดบ่อล่อไอ้เข้ และคิดว่าตัวเองคือเจ้าของและตัวเองถูกต้องที่สุด ไม่ใช่แล้วนะ แถมจะพาซวยให้ลูกด้วยซ้ำหรือไม่ต้องติดตาม

อย่างที่บอกวันนี้ประเทศถอยหลังเดินช้า กติกาวิปริต บรรยากาศไม่ค่อยน่าลงทุนไม่น่าเนื้อหอมแบบแต่ก่อนแล้ว การกระทำตัวเองตัวด้วยความเสี่ยง พาชะตาของประชาชนทั้งประเทศที่รอความช่วยเหลือ กลายเป็นมาตกอยู่ในสถานการณ์อ่อนไหวเพราะการไม่ระมัดระวังการกระทำและการพูดจา จากที่จะเกื้อหนุนส่งเสริมลูกในการเป็นผู้นำ ด้วยการให้คำปรึกษาอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ช่วยลูกดูและหลานระหว่างที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศ(ตามที่เคยอ้าง) อย่าพีงประเทศอย่าทำลายลูกด้วยความเป็นพ่อแม่รังแกฉัน เพราะความไม่รู้จักพอและทำทุกอย่างที่สุ่มเสี่ยงทางกฎหมาย ในการครอบงำ หรือใดๆ เพราะคนที่จะซวยไม่ใช่แค่ลูกของคนคนเดียว แต่อีก70ล้านคนต้องชะงักไปด้วย!