ที่กรมชลประทาน (สามเสน) วันที่ 22 ส.ค. เวลา 13.00 น. จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคเหนือ สร้างความเสียหายแก่ประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งมีความกังวลว่ามวลน้ำดังกล่าวอาจจะไหลลงมาสร้างความเสียหายในเขตพื้นที่อื่น ๆ ที่อยู่ตอนล่าง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารระดับกระทรวง ระดับกรม หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายอนุทิน กล่าวภายหลังการประชุมว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย จ.แพร่ จ.พะเยา และ จ.น่าน ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ รัฐบาลจึงได้เรียกประชุมด่วนเพื่อติดตามสถานการณ์ และร่วมบูรณาการความร่วมมือช่วยเหลือ รวมถึงเตรียมการสำหรับพื้นที่รองรับมวลน้ำตามภารกิจ อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน นำเครื่องมือมาช่วยเร่งระบายน้ำ กระทรวงคมนาคม จัดหาแนวทางให้น้ำไหลผ่าน สนทช. สำรวจพื้นที่เสี่ยงภัย โดยการส่งรถเคลื่อนที่ไปในพื้นที่วิกฤติ พร้อมทั้งส่งโดรนสำรวจพื้นที่เพื่อหาแนวทางเตรียมรองรับน้ำ และการแก้ไขให้กับพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ ดูแลของอุปโภคบริโภคไม่ให้ขาดตลาดและควบคุมราคาสินค้า ไม่ให้เพื่อไม่เป็นการซ้ำเติมประชาชน
“ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบอุทกภัย จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ โดยประสานบูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่ ทั้งการช่วยเหลืออพยพนักเรียนที่ติดอยู่ในโรงเรียน รวมถึงการประสานกับกระทรวงศึกษาธิการให้สถานศึกษาในพื้นที่เสี่ยงหยุดเรียน เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เร่งนำเครื่องมือเครื่องจักรกลในการสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพื่อบรรเทาความรุนแรง และสำหรับพื้นที่ที่คาดการณ์ว่าจะมีเหตุอุทกภัย ให้ประกาศเป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติได้ทันที เพื่อใช้งบทดรองราชการให้การช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในการประชุมวันนี้สิ่งที่เน้นย้ำ คือ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และการแก้ไขบรรเทาสถานการณ์ปัจจุบันให้กลับมาเป็นปกติเร็วที่สุด” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเเล้ว รวมถึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดสุโขทัยให้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำที่กำลังจะมาถึง โดยให้ระวังน้ำที่เอ่อล้นไปยังแม่น้ำสาขา หรือ แม่น้ำสายรอง พร้อมให้ประชาสัมพันธ์แจ้งพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติ หรือภัยต่าง ๆ ที่มากับน้ำท่วม เช่น สัตว์มีพิษ หรือ กระเเสไฟฟ้ารั่วเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และสั่งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องจักร และความมั่นคงเเข็งเเรงของเขื่อน คอสะพาน หรือ ถนนที่เป็นเส้นทางน้ำ หากมีความจำเป็นเพื่อการป้องกันก็ให้พิจารณาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว แต่ละจังหวัดได้เตรียมอาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค รวมทั้งได้มีการแจกถุงยังชีพในพื้นที่เพื่อบรรเทาภัยในเบื้องต้นแล้ว ส่วนงบประมาณนั้นทาง อปท. ได้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามระเบียบกฎหมายแล้ว ขอให้ผู้ที่ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือแจ้งข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือที่สายด่วนนิรภัย 1784 โทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
