กรมลดโลกร้อน โชว์ผลงาน “ภารกิจพิชิตโลกเดือด” ฉลอง 1 ปีวันสถาปนา

182

วันที่ 20 ส.ค.  กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้จัดกิจกรรมแสดงนิทรรศการ “1 ปี กรมลดโลกร้อน ภารกิจพิชิตโลกเดือด” และการประกาศมาตรการการลดและเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ในอาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมฯ ครบรอบ 1 ปี โดย ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง ทส. และหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ร่วมแสดงความยินดี พร้อมร่วมบริจาคสมทบทุนกองทุนสวัสดิการกรม สส.และสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมฯ พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ

ดร.พิรุณ กล่าวว่า นับตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2566 ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา “กรมลดโลกร้อน” ได้มุ่งมั่นดำเนินงานให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย โดยด้านการลดก๊าซเรือนกระจก มีการจัดทำแผนปฏิบัติการปี พ.ศ. 2564 – 2573 ตั้งเป้าหมายดำเนินการเอง 33.3% และขอรับการสนับสนุนจากต่างประเทศ 6.7% รวมเป็น 40% เทียบกับกรณีปกติ ภายในปี พ.ศ. 2573 พร้อมติดตามผลการลดก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมาย การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDC) ปี พ.ศ. 2564 จำนวน 25 มาตรการ ซึ่งลดก๊าซเรือนกระจกได้ 60.33 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

อธิบดีกรมลดโลกร้อนกล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้จัดส่งแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (NAP) ไปยังสำนักเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) พร้อมทั้งได้ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ “การบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสาขาสาธารณสุข ระหว่าง ทส.กับกระทรวงสาธารณสุข  รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ…. และการพัฒนาศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

ขณะเดียวกันยังคงดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายจากภาคส่วนต่างๆ อย่างเข้มแข็ง อาทิ เครือข่ายเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืนและเครือข่ายเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา เครือข่ายมาตรฐานสิ่งแวดล้อม G Green ศูนย์เรียนรู้ปลอดขยะ ร้านสะดวกซื้อและร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

ดร.พิรุณ กล่าวว่า สำหรับก้าวต่อไป กรมลดโลกร้อน ยังมุ่งมั่นทุ่มเทกับการแก้ปัญหาโลกเดือดที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและกับทุกคน โดยจะต้องติดตามผลการลดก๊าซเรือนกระจกให้เป็นไปตามเป้าหมาย NDC ของประเทศไทย ปี พ.ศ. 2565 พร้อมยกระดับเป้าหมายปี 2578 ให้เข้มข้นขึ้น และเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งขยายความร่วมมือ บูรณาการดำเนินงานด้านการปรับตัวให้ครบทุกสาขา ระหว่างกระทรวง ทส. กับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวง พม. และกระทรวง ดีอี

รวมถึงส่งเสริมการเข้าถึงกลไกทางการเงินเพื่อการปรับตัวฯ ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลความเสี่ยงเชิงพื้นที่และพัฒนาดัชนีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ เร่งผลักดัน (ร่าง) พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และฒนาศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความพร้อมในการพัฒนาเมือง และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสม.) ให้เป็นกลไกสำคัญในการสร้างการรับรู้และแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับพื้นที่ ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นโจทย์สำคัญที่ต้องดำเนินภารกิจอย่างเข้มข้น  เพื่อนำไปสู่ผลสำเร็จตามวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน ” และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศไว้กับประชาคมโลก

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม #พิรุณสัยยะสิทธิ์พานิช #กรมลดโลกร้อน