กทม.เสียใจเหตุการณ์นักเรียนบาดเจ็บ เร่งเยียวยาเต็มกำลัง ชวนประชาชนสอดส่องเหตุลักขโมยทรัพย์สินส่วนรวม แจ้งเหตุได้ทาง Traffy Fondue
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร และนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร (สจส.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุนักเรียนอายุ 11 ปี ถูกไฟฟ้าดูดได้รับบาดเจ็บ บริเวณป้ายรถเมล์ ถนนสุขุมวิท 71 เขตวัฒนา เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันที่ 15 ส.ค.67
รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จากการตรวจสอบฝาโลหะปิดตู้ไฟที่ชำรุด และบาดมือนักเรียนนั้นเกิดจากการขโมยฝาจนเปิดออกจนเกิดขอบที่มีความคม โดยหลังจากการไฟฟ้านครหลวงเข้าตรวจสอบไม่พบไฟฟ้ารั่ว และได้ใช้ชนวนพลาสติกมาหุ้มตรงจุดที่มีความคมของโลหะแล้ว ซึ่ง สจส. จะดำเนินการตรวจสอบทั้ง 1,400 จุดตู้ไฟป้ายรถเมล์ทั่วกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ จะตรวจสอบได้ทั้งหมด พร้อมดำเนินการป้องกันในทุกที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยขอให้ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา หากพบจุดที่ทรัพย์สินกทม.ถูกขโมยและเกิดความไม่ปลอดภัยสามารถแจ้งกทม. ผ่านทาง Traffy Fondue หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง
โฆษกของ กทม. กล่าวเสริมว่า หลังจากการเข้าตรวจดูป้ายรถประจำทางที่ทำให้น้องนักเรียนได้รับบาดเจ็บที่มือ ที่น้องแจ้งว่าลักษณะเหมือนไฟดูดเลยสะบัดมือไปกระแทกกับขอบฝาตู้ตรงป้ายรถเมล์จนบาดเจ็บนั้น พบว่าขอบฝาตู้มีลักษณะเเข็งและค่อนข้างคม และพบทรัพย์สินบางส่วนถูกขโมยทำให้ฝาตู้เปิดอ้าไว้ กทม.จึงเร่งซ่อมแซมเบื้องต้นแล้ว ซึ่งในเรื่องของไฟฟ้ารั่วนั้น เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบเรื่องไฟฟ้ารั่ว พร้อมตรวจสายไฟลงดินและตัว RCD หรือ Safety Cut ซึ่งพบว่าทั้งสองยังทำงานได้ตามปกติ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจเกิดจากไฟฟ้าสถิตย์
อย่างไรก็ตาม กทม. ยืนยันว่า เราพร้อมดูแลน้องนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บและเยียวยาทั้งหมดต่อไป โดยในเรื่องของการรักษาพยาบาลนักเรียนที่บาดเจ็บนั้น สามารถมารับบริการได้ที่โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครได้ทันที ซึ่ง กทม. จะดูแลและรักษาอย่างเต็มความสามารถต่อไป ทั้งนี้ ภายหลังการลงพื้นที่ รองผู้ว่าฯ ได้เข้าไปเยี่ยมน้องนักเรียนและเข้าพบคุณพ่อของน้อง พร้อมยืนยันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการรักษาทั้งหมด
ด้านนาย ฉันพชร นิลกำแหง อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นพ่อของน้องฌอน เยาวชนชายอายุ 11 ขวบ ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า ช่วงที่เกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 16.30 น. น้องฌอนกับย่า กำลังนั่งรอรถเมล์เพื่อที่จะกลับบ้าน โดยน้องฌอนได้นั่งในลักษณะเอาข้อศอกซ้ายเท้าไปที่บริเวณตู้ไฟฟ้า จากนั้นรู้สึกเหมือนมีไฟดูดถึงสะบัดแขนขึ้น ก่อนที่นิ้วก้อยซ้ายจะไปถูกสแตนเลสของตู้ไฟฟ้าบาด ซึ่งขณะนั้นมีวินรถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านมาพอดี ย่าจึงได้รีบให้พาไปส่งที่โรงพยาบาลโดยด่วน
ทันทีที่มาถึงโรงพยาบาล หมอได้ทำการผ่าตัด โดยพบว่าเอ็นไม่ขาด แต่มีเส้นประสาทเสียหายบางส่วน ซึ่งหมอให้พักฟื้นดูอาการ 1 เดือน ซึ่งน้องฌอนตอนนี้สภาพจิตใจยังเป็นปกติ ไม่ได้มีอาการซึมหรือเคร่งเครียดแต่อย่างใด และตัวคุณพ่อเองก็รู้สึกสบายใจขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่กทม.มาเยี่ยม พร้อมกับรับปากว่าจะดูแลรักษาค่าพยาบาลให้
ขณะที่ทางด้าน นายวินัย ใจงาม วินจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งเป็นคนที่พาผู้บาดเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาล เล่าว่า ขณะนั้นตนมาส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์จุดเกิดเหตุพอดี ก็ได้ยินป้าของคนเจ็บตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงรีบอาสาไปส่งที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงเย็นที่เป็นชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ทำให้ตนไม่สามารถใช้ความเร็วได้อย่างเต็มที่ กว่าที่จะถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาประมาณ 30 นาที