สืบนครบาล รวบ หนุ่มนำอาวุธปืนเถื่อนมาขาย เจอตำรวจโยนปืนทิ้งลงคลองแต่ไม่รอดสายตาพี่สืบ
.
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยปัจจุบันสถิติอาชญากรรมที่มีการนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไปประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย มีเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก
.
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี ,พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง , ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ สนิทไทย ,ด.ต.ฤทธิ์เดชา มหสธน ,ส.ต.ท. นัทธพงศ์ ซ้ายสุข ผบ.หมู่.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัว
นายสัมฤทธิ์ ทับจันทร์ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 45/14 ซ.เสรีไทย 43 แยก 3 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน“ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต “
พร้อมด้วยของกลาง
1.อาวุธปืน ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก
2.เครื่องกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 6 นัด
.
พฤติการณ์แห่งการจับกุมกล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบนครบาลได้สืบสวนทราบว่านายสัมฤทธิ์ มีการขายอาวุธปืนจึงได้ให้ สายลับไม่ประสงค์ออกนาม ติดต่อเพื่อขอดูอาวุธปืนดังกล่าว จึงได้ให้สายลับนัดเพื่อดูอาวุธปืน จึงตกลงวันเวลา และสถานที่เพื่อดูอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ต่อมาวันที่ 13 สิงหาคม 2567 เวลา 08.00 น นายสัมฤทธิ์ฯ ได้ขับรถมาจุดนัดพบ ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อจับกุม นายสัมฤทธิ์ ฯ เห็นจึงได้ทำการโยนอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ลงในคลอง ตำรวจจึงได้ลงไปงมขึ้นมา พบ อาวุธปืนขนาด.380 1 กระบอกและเครื่องกระสุนปืน .380 จำนวน 6 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ” มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ”เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งสิทธิให้รับทราบ
ในชั้นจับกุม นายสัมฤทธิ์ฯ รับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิดีแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าตนเป็นผู้ครอบครอง อาวุธปืนแบลงค์กันที่สามารถยิงกระสุนจริงได้ โดยตนได้สั่งซื้อปืนมาจากช่องทางออนไลน์ ที่นำมาขายเพราะตนไม่มีเงินใช้ ไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน โดยจะนำมาขายในราคา 15,000 บาท จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางที่ตรวจยึดนำส่งมอบให้แก่ พงส.สน.บึงกุ่ม กทม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า อาวุธปืนและกระสุนปืนนั้น เป็นต้นตอของการก่อเหตุอาชญากรรม โดยทางสืบนครบาลมุ่งเน้นที่จะปราบปรามจับกุมอย่างจริงจัง เพื่อลดปัญหาในสังคมและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และขอฝากเตือน การซื้อขาย ครอบครอง และพกพาอาวุธปืน” ต้องขอใบอนุญาตจากนายทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากซื้อขายอาวุธปืนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ผู้ขายมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท หากประชาชนพบเห็นการซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์ หรือพบเห็นบุคคลที่ชอบพกพาอาวุธปืนออกมาในที่สาธาณะ ให้แจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม.