กรมประมง จับมือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยสร้างโรงเพาะ “กุ้งก้ามกราม” เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้และส่งเสริมอาชีพ หนุนเพิ่มปริมาณ สร้างแหล่งอาหารที่มั่นคง ให้ชุมชนรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
ที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น หมู่ที่ 3 ต.เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง มีนายทิเดช เอี่ยมสาย รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมประมงและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เพื่อสนับสนุนงบประมาณสร้างโรงเพาะกุ้งก้ามกราม สำหรับเป็นศูนย์การเรียนรู้และส่งเสริมอาชีพเคียงคู่ชุมชน ภายใต้วงเงิน 4.4 ล้านบาท
นายประพันธ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมประมงได้เพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามในพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มาโดยตลอด โดยมีรายงานการจับสัตว์น้ำเฉลี่ย 2.7 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่าปีละ 2.5 ล้านบาท
ซึ่งการได้รับการสนับสนุนงบประมาณถึง 4,400,000 บาท จาก กฟผ.สำหรับการจัดสร้างโรงเพาะกุ้งก้ามกรามเพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้และส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชนได้นำไปพัฒนาเป็นธุรกิจท้องถิ่นในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีให้กรมประมงสามารถเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามเพื่อรองรับความต้องการใช้ประโยชน์ของชาวประมงและชุมชนรอบเขื่อนกว่า 2,000 ครัวเรือนได้มากยิ่งขึ้น คาดว่าศูนย์การเรียนรู้นี้จะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 68 โอกาสนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น ยังจัดโครงการ “เพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามและของดีอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์” โดยร่วมกันปล่อยกุ้งก้ามกราม 3 ล้านตัว เพื่อเพิ่มผลผลิตในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ให้เป็นแหล่งอาหารที่มั่นคง เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน สร้างรายได้และโอกาสในการประกอบอาชีพให้กับชุมชนรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์และพื้นที่ใกล้เคียงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ
“ภายในงานยังจัดกิจกรรมอื่น ๆ ประกอบด้วย การประกวดกุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่แบบมีชีวิตที่จับได้จากเขื่อนอุบลรัตน์ การแข่งขันประกวดการประกอบอาหารจากกุ้งก้ามกราม การประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “วิถีชีวิตชาวประมงเคียงคู่เขื่อนอุบลรัตน์” การประกวดวาดภาพระบายสีของนักเรียนในหัวข้อ “วิถีชีวิตชาวประมงเขื่อนอุบลรัตน์” การจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมงจากร้าน FISHERMAN SHOP@UBOLRATANA RESERVOIR รวมถึงการจัดแสดงนิทรรศการประมงเพื่อให้ความรู้และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากร โดยมีประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
กรมประมงเชื่อมั่นว่า จากความร่วมมือและการจัดกิจกรรมดังกล่าว จะสามารถช่วยฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ให้กลับมาคงความอุดมสมบูรณ์ได้มากขึ้น และจะเป็นการเสริมสร้างการประกอบอาชีพด้านการประมง เพิ่มพูนรายได้ให้กับประชาชนและชาวประมงในพื้นที่ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างความสามัคคีให้แก่ชุมชนในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำร่วมกัน ตลอดจนได้ปลูกจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรประมงที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีผลผลิตที่ยั่งยืนตลอดไป” รองอธิบดีกรมประมง กล่าว.
#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#กรมประมง#การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย#กุ้งก้ามกราม
