ตำรวจCIB เปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้างบุกทลายเครือข่ายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด 6 จังหวัด

359

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วงศ์ปกรณ์ เปรมกุลนันท์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี, พ.ต.ท.วิวัฒนชัย คลื่นแก้ว,พ.ต.ท.จักรี กันธิยะ และ พ.ต.ท.พิทยา คงเจริญ รอง ผกก.5 บก.ปอศ.เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์, พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัตน์,พ.ต.ต. พิชญากร แตงรอด สว.กก.5 บก.ปอศ., ร.ต.อ.บัญชา ช่วยรอดหมด รอง สว. กก.5 บก.ปอศ.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. เปิดปฏิบัติการกวาดล้างบุกทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด รวบผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ในพื้นที่ 6 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 5 รายตรวจยึดของกลางหลายรายการ ดังต่อไปนี้

ปฏิบัติการที่ 1 : ทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบ เครือข่าย “บอย หลังเขา” ปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหดข่มขู่ลูกหนี้ รวบผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 ราย เงินหมุนเวียนกว่าปีละ 50 ล้านบาทพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.สระแก้ว


เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์, พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัตน์,พ.ต.ต. พิชญากร แตงรอด สว.กก.5 บก.ปอศ., ร.ต.อ.บัญชา ช่วยรอดหมด รอง สว. กก.5 บก.ปอศ.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.5 กก.3 บก.ทล. นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.สมโภชน์ บุญชะยา สว.ส.ทล.5 กก.3บก.ทล. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.5 กก.3 บก.ทล.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.วังสมบูรณ์ พ.ต.ท.ฐปณัธ ชญาณพัฒน์ รอง ผกก.สส.สภ.วังสมบูรณ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังสมบูรณ์ร่วมกันจับกุม นายยุทธพงค์ ฯ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 3273/2567 12กรกฎาคม 2567,นายอุเทน ฯ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 3274/2567 ลงวันที่ 12กรกฎาคม 2567และนายณัฐวุฒิ ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 3275/2567 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2567

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้”สถานที่จับกุม บ้านพักไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 10 ต.สะตอน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี, บ้านหลังหนึ่ง ต.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว

พฤติการณ์ ด้วยเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ได้มีผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
กก.5 บก.ปอศ. ให้การว่า ช่วงประมาณปลายปี 2566 ประสบปัญหาด้านการเงิน ได้กู้สินเชื่อนอกระบบจากนายยุทธพงค์ ขอสงวนก่อนปล่อยกู้ นายยุทธพงค์ฯ ได้มาตรวจสอบที่พักอาศัยของผู้เสียหาย และมอบเงินกู้ จำนวน 9,000 บาท หักค่าจัดทำเอกสาร 500 บาท และหักเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยวันแรกทันที จำนวน 500 บาท ในการชำระเงินกู้ จะต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยวันละ 500 บาท เป็นจำนวน 24 วัน ซึ่งคิดเป็นดอกเบี้ยโหด กว่าร้อยละ 506.94 ต่อปี เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ต่อมาผู้เสียหายหากชำระดอกเบี้ยไม่ตรงตามกำหนดเวลา นายยุทธพงค์ฯ มีการข่มขู่คุกคามว่าจะทำร้ายร่างกาย ทวงถามหนี้ด้วยถ้อยคำหยาบคาย อีกทั้งมีการทวงถามกับบิดา และมารดาของผู้เสียหาย ทำให้เกิดความหวาดกลัว รู้สึกไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงเข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. สืบสวนและติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมารับโทษตาม กฎหมายโดยเร็ว จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่ปรากฏ ทราบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดดังกล่าว เป็น เครือข่ายเงินกู้รายใหญ่ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่าปีละ 50 ล้านบาท มีผู้เสียหายจำนวนมาก จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับกลุ่มผู้กระทำความผิด จำนวน 3 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตและเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”


ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการออกสืบสวนจนพบเบาะแสว่ากลุ่มผู้ต้องหาตาม
หมายจับทั้ง 3 ราย หนีกบดานอยู่ในเขตพื้นที่ อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี และ เขตตำบลวังสมบูรณ์
อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว และมีลักษณะการปิดบังอำพรางถิ่นที่อยู่ ปิดบังการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

ตำรวจ โดยได้มีการดำเนินการ ดังนี้ จุดที่ 1 อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. สนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จันทบุรี ร่วมกันตรวจค้นบ้านพักไม่ มีเลขที่ ต.สะตอน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี จับกุม นายยุทธพงค์ ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่
3273/2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันให้บุคคลอื่น กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้”

จุดที่ 2 :อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้วเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. สนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงปราจีนบุรี/สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ตรวจ สภ.วังสมบูรณ์ ร่วมกันตรวจค้น บ้านแห้งหนึ่งใน ต.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้วซึ่งบ้านพักดังกล่าวมีลักษณะเป็นห้องแถวชั้นเดียว แบ่งเป็นหลายห้อง มีลักษณะปิดบังอำพรางสายตา สร้างกำแพงปิดบังการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. จึงได้ใช้วิธีการตรวจสอบโดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศ ก่อนขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดสระแล้ว และเข้าตรวจค้นจับกุม สามารถจับกุมผู้ห้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” จำนวน 2 ราย คือ นายอุเทน ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3274/2567 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 นายณัฐวุฒิ ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3275/2567 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 โดยขณะเข้าทำการตรวจค้น กลุ่มผู้กระทำผิดบางรายได้พยายามหลบหนีซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นจับกุมได้ทำการปิดล้อม กดดัน และสามารถนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายได้ทั้งหมดผลการดำเนินการสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 3 ราย และเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง มาให้ถ้อยคำ จำนวน 9 ราย พร้อมด้วยของกลางอันเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหลายรายการประกอบด้วย ใบปลิว/นามบัตร ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์การให้สินเชื่อนอกระบบ จำนวนกว่า 300 ใบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 12 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก 5 เล่ม และโน้ตบุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง รวมทั้งเอกสารเกี่ยวกับการปล่อยกู้หลายรายการ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ และนำตัวส่งพนักงาน สอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ปฏิบัติการที่ 2 : “รวบนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านโซเชียลมีเดีย ดอกโหด ร้อยละ 521.22 ต่อปี”
พื้นที่ จ.นนทบุรี

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น นำโดย พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัต สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมด้วย
ร.ต.อ.สมบูรณ์ ควรชม รอง สว.กก.5 บก.ปอศ, ด.ต.ปริญญา คำชุม, ด.ต.คัมคุณ บุญครอบ, ด.ต.ศุภชัย เอกจีนด.ต.ชัยวัฒน์ เขียวอิ่ม, ด.ต.อติกันต์ เปรมสุข, จ.ส.ต.เจษฎา สายติ๊บ, จ.ส.ต.ธีระเดช ลำสมุทร
และ ส.ต.อ.บรรเจิด คำเหลื่อม ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปอศ.ร่วมกันกล่าวโทษ น.ส.วรรษชล ฯ อายุ 30 ปี ผู้ถูกกล่าวโทษตามหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรีที่ ค.679/2567 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2567
โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ โดยไม่ได้รับอนุญาต และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้”สถานที่ตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งใน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

พฤติการณ์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปอศ. ได้รับแจ้งจากสายลับ แจ้งว่า น.ส.วรรษชล ฯ มี
พฤติกรรมปล่อยเงินกู้นอกระบบเก็บดอกเบี้ยแบบดอกลอย ร้อยละ 10 บาทต่อสัปดาห์ จนกว่าจะมีเงินต้นมาคืน โดยมีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นการปล่อยเงินกู้ดอกลอยร้อยละ 10 บาทต่อสัปดาห์ จนกว่าจะมีเงินต้นมาคืนเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่า น.ส.วรรษชล ฯ ได้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน และคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ ค.679/2567 ให้ค้น บ้านหลังหนึ่งใน ม.9 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

จากการตรวจค้นภายในบ้าน พบทรัพย์สินซึ่งใช้ในการประกอบความผิดปล่อยเงินกู้นอกระบบ จึงได้
ตรวจยึดสิ่งของดังกล่าว จากการตรวจสอบพยานหลักฐานที่ได้จากการตรวจยึด พบว่ามีปล่อยเงินกู้ให้กับบุคคลทั่วไปจริง โดยผ่านช่องทางแอปพลิเคชันไลน์ และ บัญชี facebook โดยคิดอัตราดอกเบี้ยแบบดอกลอย ร้อยละ 10 บาท ต่อสัปดาห์ หรือคิดเป็น ร้อยละ 521.22 ต่อปี จนกว่าลูกหนี้จะมีเงินต้นมาคืนพร้อมดอกเบี้ยในคราวเดียวกัน ก่อนคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมพนักงานสอบสวน กก.5 บก. ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ปฏิบัติการที่ 3 : “ทลายขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านระบบคอมพิวเตอร์ดอกโหด ร้อยละ 547.5 ต่อปี พื้นที่ จ.ชลบุรี

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น นำโดย พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัต สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมด้วย
ร.ต.อ.สมบูรณ์ ควรชม รอง สว.กก.5 บก.ปอศ, ด.ต.คัมคุณ บุญครอบ, ด.ต.ศุภชัย เอกจีน, ด.ต.ชัยวัฒน์ เขียวอิ่ม,ด.ต.อติกันต์ เปรมสุข, จ.ส.ต.เจษฎา สายติ๊บ, จ.ส.ต.ธีระเดช ลำสมุทร และ ส.ต.อ.บรรเจิด คำเหลื่อมผบ.หมู่ กก.5 บก.ปอศ.
ร่วมกันกล่าวโทษ นายทักษ์ดนัย ฯอายุ 24 ปี ผู้ถูกกล่าวโทษตามหมายค้นของศาลจังหวัดชลบุรี ที่
ค.213/2567 ลง 24 กรกฎาคม 2567โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ โดยไม่ได้รับอนุญาตและให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” สถานที่ตรวจค้น ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี

พฤติการณ์ เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 ผู้กล่าวหา ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5
บก.ปอศ. ให้ดำเนินคดีกับ นายทักษ์ดนัย ฯ พร้อมพวกที่มีพฤติกรรมร่วมกันปล่อยเงินกู้นอกระบบโดยผ่านเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันไลน์ โดยมีการประกาศโฆษณาชักชวนให้บุคคลทั่วไปมากู้ยืมเงิน และได้รับประโยชน์จากการที่เรียกเก็บดอกเบี้ยโหด กว่าร้อยละ 1.5 ต่อวัน หรือร้อยละ 540 ต่อปี โดยมีการทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ และมีพฤติการณ์ข่มขู่ลูกหนี้หากชำระไม่ตรงตามเวลา เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่า นายทักษ์ดนัยฯได้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน และคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายค้นของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ ค.213/2567 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี พบนายทักษ์ดนัย ฯอายุ 24 ปี พักอาศัยอยู่ในบ้าน และได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้น พบโทรศัพท์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเอกสารเกี่ยวการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนมาก

จากการสอบถามยอมรับว่า ได้ปล่อยเงินกู้นอกระพบผ่านเฟซบุ๊ค ส่วนตัว โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่ประกอบธุรกิจขายเล็ก SME เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น จึงได้แจ้งข้อหา นายนายทักษ์ดนัย ฯ ในความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” และส่งมอบสิ่งของที่ได้จากการตรวจยึดให้กับ พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ปฏิบัติการที่ 4  :  “บุกทลายเครือข่ายเจ้าแม่เงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด พบเงินหมุนเวียนนับล้าน พื้นที่ จ.สิงห์บุรี”

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น นำโดยร.ต.อ.บัญชา ช่วยรอดหมด รอง สว. กก.5 บก.ปอศ.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.ร่วมกันกล่าวโทษ นางบุศรา ฯ อายุ 40 ปี อาศัยใน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้”
สถานที่ตรวจค้น บ้านพักไม่ปรากฏเลขที่หมู่ที่ 1 ต.จักรสีห์ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรีพฤติการณ์ ด้วยเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ผู้เสียหาย ได้มาพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ให้การว่าในช่วงประมาณปลายปี 2566 ประสบปัญหาด้านการเงิน    

จึงได้กู้สินเชื่อนอกระบบจาก นางบุศรา ฯจำนวน 5,000 บาท หลังจากขอกู้เงิน นางบุศราฯ ได้มาตรวจสอบที่พักอาศัยของผู้เสียหาย และมอบเงินสดที่กู้ยืม 5,000 บาท ในการชำระเงินกู้ ต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยวันละ 350 บาท เป็นจำนวน 20 วัน ซึ่งคิดเป็นดอกเบี้ย ร้อยละ 730 ต่อปี    ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้นางวิชุดาฯ ได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าผู้กระทำความผิดดังกล่าวเป็นเครือข่ายเงินกู้รายใหญ่ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่าปีละล้านบาท  มีผู้เสียหายจำนวนมาก

จากการสืบสวนเส้นทางการเงินพบว่ามีลูกหนี้ที่ได้กู้ยืมเงิน มากกว่า 20 ราย จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นบ้านพักของนางบุศราฯ ผู้กระทำความผิดก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำหมายค้นของศาลจังหวัดสิงห์บุรี ที่ 75/2567 ทำการเข้าตรวจค้นบ้านพักไม่ปรากฏเลขที่ หมู่ 1 ต.จักรสีห์ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี

จากการตรวจค้นพบสมุดรายชื่อลูกหนี้จำนวนมาก จึงได้ยึดไว้เพื่อตรวจสอบ และได้กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับ นางบุศรา ฯ ในความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้”ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ปฏิบัติการที่ 5 : รวบคู่รักสตาร์ทอัพ ปล่อยกู้วงแชร์ ทวงหนี้โหดคิดดอกร้อยละ 1,000 ต่อปี เงินหมุนเวียนในระบบกว่า 30 ล้านบาท พื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดยพ.ต.ต.พิชญากร แตงรอด สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ชุดปฏิบัติการที่ 4)  กก.5บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุม  
น.ส.จริยา ฯ อายุ 29 ปี, นายกีรติ ฯ อายุ 27 ปี
โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด, ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น ร่วมกันแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทวงถามหนี้” สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่งใน หมู่ที่ 1 ต.ห้วยทราย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
     

พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจาก เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2567 ได้มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ว่ามีกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูง โดยผู้ที่ขอกู้นั้นจะต้องจ่ายดอกเบี้ยรายวันในอัตราร้อยละ 2.86 ต่อวัน หรือกว่าร้อยละ 1,043.90 ต่อปี อันเป็นการคิดดอกเบี้ยที่เอารัดเอาเปรียบ ซ้ำเติมประชาชน  จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการโพสต์ชักชวนประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในการเล่นแชร์ ต่อมาเมื่อผู้เสียหายประสบปัญหาทางการเงิน ส่งเงินไม่ทัน ผู้ต้องหาจึงปล่อยกู้ให้แก่ลูกวง หากลูกหนี้รายใดผิดนัดชำระหนี้ จะใช้วิธีการส่งข้อความทวงหนี้ทางไลน์กลุ่ม ด้วยถ้อยคำหยาบคายและข่มขู่ลูกหนี้ทำให้เกิดความหวาดกลัว จนกระทั่งต้องยินยอมชำระหนี้ให้กับตน ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหา  เป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีเงินหมุนเวียนในบัญชีช่วงระยะเวลา 1 ปี 5 เดือน กว่า 30 ล้านบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนสามารถพิสูจน์ทราบกลุ่มผู้ร่วมกระบวนการ พบผู้กระทำความผิด จำนวน 2 ราย จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาไว้แล้ว ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาและตรวจค้นที่พักอาศัยดังกล่าว ซึ่งอยู่ในท้องที่ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมตรวจยึดสิ่งของอันเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหลายรายการ ประกอบด้วยสัญญากู้ยืมเงิน จำนวน 1 ฉบับ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง รวมทั้งเอกสารข้อมูลลูกหนี้และเอกสารที่เกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้จำนวนหลายรายการ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิ ตามกฎหมายให้ทราบ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การใด ๆ            

ในชั้นพนักงานสอบสวนสุดท้ายนี้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชน อย่าหลงเชื่อในการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือ และไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยังเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หากต้องการตรวจสอบแหล่งเงินกู้ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบใบอนุญาตการปล่อยสินเชื่อได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้   


 
ธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ 

https://app.bot.or.th/BotLicenseCheck

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เว็บไซต์

http://www.1359.go.th/picodoc/comp.php
 
“ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ”“ การเผยแพร่ข่าว เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ ”

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวอาชญากรรมวันนี้ #ตำรวจCIB