“ผบช.ก.ตร.”ยืนยัน 2 นายพลสีกากี เข้าชี้แจงด้วยวาจา ก.พ.ค.ตร. ปมคำสั่งออกราชการบ่ายนี้

148

“ผบช.ก.ตร.”ยืนยัน 2 นายพลสีกากี เข้าชี้แจงด้วยวาจา ก.พ.ค.ตร. ปมคำสั่งออกราชการบ่ายนี้ คาดทราบผลสรุปในสัปดาห์นี้

วันนี้ (30 กรกฎาคม) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) กล่าวถึง การเรียก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. ให้เข้าชี้แจงด้วยวาจาปมอุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการชั่วคราวที่ลงนามโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ขณะที่ดำรงแหน่งรักษาราชการแทนผบ.ตร.

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมพิจารณาคำอุทธรณ์ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ที่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจกรณีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนโดยมองว่าเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นตามกระบวนการจะต้องเชิญ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)โดยตำแหน่งมาให้ถ้อยคำด้วยวาจา แต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้มอบหมายให้พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เข้าชี้แจงเนื่องจากเป็นผู้ลงนามคำสั่ง

ก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมการฯได้แจ้งให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาดำเนินการชี้แจงอุทธรณ์เพิ่มเติมด้วยวาจากับกรรมการเจ้าของสำนวนซึ่งเห็นว่าพยานหลักฐานเพียงพอต่อการวินิจฉัยและนำไปสู่การนัดพิจารณาได้แล้ว ที่ประชุมจึงต้องการเปิดโอกาสให้ 2 ฝ่ายแถลงด้วยวาจาและยื่นเอกสารประกอบคำแถลง

โดยรูปแบบคือ ทั้ง 2 ฝ่ายต้องเข้าห้องวินิจฉัยเพื่อชี้แจงต่อหน้ากรรมการทั้ง 6 ท่านพร้อมกันแต่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีสิทธิโต้แย้งกันเอง ซึ่งคณะกรรมการจะรับฟังเหตุผลทีละท่าย และให้อีกฝ่ายฟังไปด้วยในเวลาเดียวกัน

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนส่วนนี้คณะกรรมการฯจะนำสำนวนหลักฐานที่ได้ทำไว้เสร็จแล้วประกอบกับการให้ถ้อยคำวันนี้พิจารณาร่วมกันโดยจะสรุปผลวินิจฉัยในรอบการประชุมซึ่งจะมีทุกวันอังคาร และพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวต่อว่า เมื่อได้ข้อสิ้นสุดคำวินิจฉัยทางคณะกรรมการฯจะส่งผลทั้ง 2 ฝ่ายให้รับทราบก่อนที่จะมีการแถลงให้สาธารณะชนรับทราบ ส่วนจะส่งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้เรียกขอเอกสารส่วนนี้หรือไม่

หากผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการฯออกมาเป็นลบ(คำสั่งออกจากราชการชอบด้วยกฎหมาย)ต่อ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ สามารยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 90 วันหลังทราบผล เพื่อขอให้คุ้มครองสถานะการเป็นตำรวจชั่วคราว

แต่ในทางกลับกันหากผลเป็นบวก(คำสั่งออกจากราชการมิชอบด้วยกฎหมาย)ต่อพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ คำสั่งออกจากราชการ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการเพิกถอนและ พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์จะกลับมารับตำแหน่งดังเดิม สิทธิประโยชน์คงเดิมรวมทั้งได้เป็นแคนดิเดตในการคัดเลือกผบ.ตร.

ในประเด็นว่าผลวินิจฉัย ก.พ.ค.ตร. จะเสร็จสิ้นทันการคัดเลือกผบ.ตร.เดือนกันยายนนี้หรือไม่ พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า ผลวินิจฉัยคาดว่าเสร็จสิ้นภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้ ส่วนการลงมติผลครั้งนี้ของคณะกรรมการฯ จะออกมาลักษณะเป็นการลงเสียงข้างมากไปในทิศทางเดียวกัน

ในเบื้องต้นวันนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันว่าจะเดินทางมาชี้แจงกับคณะกรรมการฯด้วยตนเอง ช่วงบ่ายวันนี้

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์