กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป.รรท.รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.รรท.ผบก.บก.รน, พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์ รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.อภิมัณฑ์ บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.หญิงวรรณภา พรมบัญชา รอง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.ท.ดวง ขาวสะอาด รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ป., ด.ต.สรายุทธ พินิจจิตร, จ.ส.ต.พิทักษ์ มณีรัตน์, ,ส.ต.อ.ธนบัตร พิลาสุก, ส.ต.อ.จรุณพงศ์ พันชัย ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม 4 นาย ดังนี้
- นายกำพล หรือสิบสี่ ฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 383/2567
ลง 19 ก.ค.67 ข้อหา “จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”
2.นายทวีศักดิ์ ฯ อายุ 36 ปี ข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)
โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”
3.นายเมธาสิทธิ์ ฯ อายุ 33 ปี ข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย “
4.น.ส.อรทัย ฯ อายุ 22 ปี ข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)
โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”
สถานที่จับกุม ต.เมืองน้อย ต่อเนื่อง ต.อุ่มเม้า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด
พฤติการณ์
ด้วยกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการสืบสวนปราบปราม แก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างจริงจัง ทำการจับกุมผู้ค้า, ผู้เสพ และตัดวงจรการค้าเสพติดอย่างเข้มงวด เด็ดขาด เพื่อลดความรุนแรงของปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ที่มีอยู่ทั้งในหมู่บ้าน/ชุมชน ในพื้นที่รับผิดชอบให้เป็นพื้นที่สีขาว และเพื่อความผาสุกของประชาชน พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป. ทำการสืบสวนขยายผล จับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยด่วน
จากการสืบสวนขยายผล กลุ่มผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ ต.อุ่มเม้า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อยาบ้า มาจากนายกำพล หรือสิบสี่ ฯ ซึ่งเป็นผู้ค้ารายย่อยในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้รวบพยานหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวน และต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ทำการออกหมายจับ และศาลอนุมัติหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ดที่ 383/2567 ลง 19 ก.ค.67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และทำการขออนุมัติหมายค้นบ้านพักนายกำพล หรือสิบสี่ ฯ ต่อศาลจังหวัดร้อยเอ็ด และศาลอนุมัติตามคำขอ
ต่อมา พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวนายกำพล หรือสิบสี่ฯ โดยพบตัวนายกำพลฯ ที่เพิงพักไม่มีเลขที่ ในหมู่บ้านหนองดินแดง หมู่ 3 ต.เมืองเพีย อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งห่างจากบ้านพักของนายกำพลฯ ประมาณ 100 เมตร และพบ นายทวีศักดิ์ฯ อายุ 36 ปี เพื่อนนายกำพลฯ อยู่ในบริเวณเดียวกัน จากการสอบถามนายกำพลฯ ให้การปฏิเสธข้อหาตามหมายจับ อ้างว่าเลิกจำหน่ายยาบ้ามาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจค้นบ้านพัก พบอุปกรณ์เสพยาบ้า และถุงซิปล็อคพลาสติกเปิด-ปิด จำนวนหลายใบบริเวณที่นอน นายกำพลฯ จึงให้การรับว่าตนพึ่งเสพยาบ้ามาเมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 จำนวน 2 เม็ดที่เพิงพักบ้านเพื่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนขยายผลไปตรวจสอบยังกระท่อม ไม่มีเลขที่ หน้าถนนบ้านหนองหญ้าหวาย ม.11 ต.อุ่มเม้า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด พบนายเมธาสิทธิ์ฯ อายุ 33 ปี และ น.ส.อรทัยฯ อายุ 22 ปี นอนอยู่ในกระท่อม ดังกล่าว โดยทั้งสองรับสารภาพว่าได้ร่วมเสพยาบ้ามาเมื่อวันที่ 21 ก.ค.67 จำนวน 2 เม็ด ที่ป่าเก็บเห็ด ต.อุ่มเม้า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจหาสารเสพติดในน้ำปัสสาวะ ผลการตรวจสอบพบเป็นบวกทั้ง 4 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธวัชบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายกำพล หรือสิบสี่ฯ ให้การปฏิเสธในข้อหา “จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตามหมายจับ แต่รับสารภาพในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” ในส่วนของนายทวีศักดิ์ฯ อายุ 36 ปี, นายเมธาสิทธิ์ฯ อายุ 33 ปี และน.ส.อรทัยฯ อายุ 22 ปี ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา