ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ (4 ก.ย.) นายนรินทร์จ เศรษฐีใจเย็น กรรมการผู้จัดการบริษัท บลูโอเชี่ยน รีสอร์ท จำกัด เปิดเผยว่า ได้มีการยื่นฟ้อง บริษัท เอช ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด ในข้อหาเกี่ยวกับการผิดสัญญาประกันภัยทุนทรัพย์ฟ้อง 150 ล้านบาท เนื่องจากโรงแรมบลูโอเชี่ยน รีสอร์ท (ไตรตรัง) หรือ บลู โอเชี่ยน บีช รีสอร์ท หรือบลู บีช คลับ อยู่ที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 1 ไร่ 26.6 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างอาคารโรงแรม เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2555 ถึงวันที่ 26 มกราคม 2559 ตนตกลงทำประกันภัยกับจำเลยกรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัย ประเภทการประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน เพื่อประกันทรัพย์สินของบริษัทและบริษัทเครือเดียวกัน 4 กรมธรรม์คือ 1.กรมธรรม์ฉบับที่ 1 กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ระยะเวลาประกันภัย 1 ปี เริ่มวันที่ 26 มกราคม 2555 สิ้นสุดวันที่ 26 มกราคม 2556 จำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 480,000,000 บาท เบี้ยประกันภัยรวม 515,654.40 บาท
2. กรมธรรม์ฉบับที่ 2 กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ระยะเวลาประกันภัย 1 ปี เริ่มวันที่ 26 มกราคม 2556 สิ้นสุดวันที่ 26 มกราคม 2557 จำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 763,200,000 บาท เบี้ยประกันภัยรวม 876,612.48 บาท
3.กรมธรรม์ฉบับที่ 3 กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ระยะเวลาประกันภัย 1 ปี เริ่มวันที่ 26 มกราคม 2557 สิ้นสุดวันที่ 26 มกราคม 2558 จำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 819,200,000 บาท เบี้ยประกันภัยรวม 852,549.25 บาท
4.กรมธรรม์ฉบับที่ 4 (ฉบับที่พิพาทในคดีนี้) กรมธรรม์ประกันภัยประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ระยะเวลาประกันภัย 1 ปี เริ่มวันที่ 26 มกราคม 2558 สิ้นสุดวันที่ 26 มกราคม 2559 จำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 819,200,000 บาท เบี้ยประกันภัยรวม 852,549.25 บาท เฉพาะเงินทุนประกันภัย ในส่วนโรงแรมบลู โอเชี่ยน บีช รีสอร์ท หรือของโจทก์ 150,000,000 กรมธรรม์ฉบับที่ 4 ดังกล่าวนี้ เป็นกรมธรรม์ความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ซึ่งหมายถึงการประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน อาคารโรงแรมบลู โอเชี่ยน บีช รีสอร์ทของโจทก์ อันประกอบด้วย ตัวอาคาร สิ่งปลูกสร้างต่างๆทั้งหมด รวมส่วนต่อเติมตกแต่งต่างๆ (รวมรากฐาน) กำแพง,ประตู,กำแพงกันดิน ฯลฯ รวมถึงทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ในความดูแลรักษาของผู้เอาประกันภัยในฐานะผู้รักษาทรัพย์สิน (ไม่รวมทรัพย์สินของแขก) โดยเงื่อนไขกรมธรรม์ดังกล่าวนี้ เป็นการรับประกันภัยรวมภัยจากแผ่นดินไหว ซึ่งบริษัท เอช ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด ต้องคุ้มครองความเสี่ยงภัยดังกล่าวตามกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อเกิดเหตุภัยดังกล่าว จำเลยจะให้ความคุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัย อันเนื่องมาจากสาเหตุภัยจากแผ่นดินไหวฯ โดยตามสัญญาและกรมธรรม์ประกันภัยในส่วนนี้ มีทุนประกันภัย โรงแรมบลู โอเชี่ยน บีช รีสอร์ท ตามที่กล่าวมาแล้ว รวมเป็นทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ เป็นจำนวนเงิน 150,000,000 บาท
โดยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 06.00 น. เกิดแผ่นดินไหวบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและแจ้งทางแผนกช่างให้เข้าไปตรวจสอบภายในโรงแรมบลูฯพบการแตกร้าวเกิดขึ้นของเสาและผนังอาคารหลายจุด และห้องพัก (อาคาร 1) -อาคาร 2ที่บริเวณพื้นปูนตามพื้นที่โดยรอบโรงแรมมีรอยแตกและยุบตัวเช่นกันตัวแทนได้แจ้งการเคลมเรียกร้องสิทธิ์ตามสัญญาประกันภัยจากเหตุความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวไปยังผู้จัดการฝ่ายสินไหม เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้จัดการฝ่ายสินไหมทดแทน และหรือตัวแทนของจำเลยได้รับแจ้งเคลมประกันแผ่นดินไหวดังกล่าวแล้ว หลังจากนั้นได้ติดตามทวงถามทางบริษัท กลับบ่ายเบี่ยงและเพิกเฉย ตนจึงขอความเป็นธรรมยังหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมทั้งสื่อสารมวลชน ทำให้ทางบริษัทฯ เสนอจ่ายค่าสินไหมจำนวน 267,245 บาท เมื่อหักความรับผิดส่วนแรกตามกรมธรรม์จำนวน 100,000 บาทเหลือจำนวนค่าสินไหมทดแทนเพียงจำนวน 167,245 บาท
นายนรินทร์ กล่าว่าตนจึงยื่นขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อขอความเป็นธรรมและเรียกร้องให้บริษัทจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่เอาประกัน ตามกรมธรรม์ประกันภัย และมีการเจรจารวม 3 ครั้ง ในปี 2559 ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แต่การเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ โดยทางบริษัทฯยืนยันเสนอค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์จำนวน 1,000,000 บาท เท่าเดิม ทางตนจึงไม่รับข้อเสนอ สุดท้ายตนได้ให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวให้ทางบริษัทใช้เงินแก่ตน ตามกรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัย ซึ่งทางบริษัทได้รับแล้ว แต่แล้วกลับทำเพิกเฉย ตนพร้อมทนายจึงมายื่นฟ้องที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ตามหมายคดีหมายเลขดำที่ ผบ.342/2560 โดยมีบริษัท บลูโอเชี่ยน รีสอร์ท จำกัด เป็นโจทก์ และบริษัท เอช ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด เป็นจำเลย