‘ตำรวจ’ต้องมีธรรมะของพระพุทธเจ้ามากกว่าคนปกติ เพื่อพิทักษ์รับใช้ให้ความยุติธรรมกับประชาชน

680

เมื่อบากหน้ามาเป็นตำรวจอยู่ในขบวนการยุติธรรม คนในวงการนี้ต้องมีธรรมะของพระพุทธเจ้ามากกว่าคนปกติ จึงจะสามารถทำงานในการพิทักษ์รับใช้ให้ความยุติธรรมกับประชาชนได้  ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ตนเองก่อน  ทำตามกฎหมายทำตามหน้าที่ แล้วจะต้องกลัวหรือหวั่นไหวอะไร

ช่วงนี้มีการส่งไลน์เวียนเข้าทั้งส่วนตัวและกลุ่ม เรื่องปฏิรูปตำรวจฯ ก็ว่ากันไป…ว่าไงว่าตามกัน…แต่ขอแสดงความเห็นหน่อย บันทึกเก็บไว้เผื่อคนรุ่นหลังมาอ่านเจอ จะได้ช่วยกันพิจารณาว่าแท้จริงแล้วปัญหาหลักคืออะไร ก่อนไปถึงรายละเอียดอื่นๆ

เมื่อบากหน้ามาอยู่ในขบวนการยุติธรรม แถมเป็นต้นกระบวนการฯ คนในวงการนี้ต้องมีธรรมะของพระพุทธเจ้ามากกว่าคนปกติ จึงจะสามารถทำงานในการพิทักษ์รับใช้ให้ความยุติธรรมกับประชาชนได้  ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ตนเองก่อน  ทำตามกฏหมายทำตามหน้าที่ แล้วจะต้องกลัวหรือหวั่นไหวอะไร เพราะการทำตามหน้าที่คือการมีศีล มีธรรมะอย่างดียิ่ง คำสั่งของผู้บังคับบัญชา คือพรจากสวรรค์ แต่ต้องเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายตามวิชาชีพของตำรวจ ถ้าคำสั่งนั้นไม่ชอบ ก็ไม่ต้องปฏิบัติ…เว้นไว้แต่ว่าจะมีความกลัวเกิดขึ้นอยู่ในใจ อุดมการณ์ อุดมคติที่เคยท่องเคยมีในความรู้สึกนึกคิดตอนเรียนตอนฝึกได้ค่อยๆหายไป เมื่อออกมาทำงาน แล้วโดนครอบงำด้วยคนด้วยระบบที่ไม่ถูกต้อง จิตใจไม่แข็งแกร่งที่จะรักษาความดีความถูกต้องไว้ เพราะเริ่มเห็นแก่ตัว อยากได้ยศถาบรรดาศักดิ์ อยากได้เงินมากๆ 

ในขณะที่อาชีพตำรวจนั้น มีสิ่งเร้าเข้ามากระทบทุกวัน เริ่มจาก รัก…ผู้หญิง โลภ…เงิน สองอย่างนี้มีมาทุกวัน  โกรธ…มีปัญหาในการทำงานอยู่เสมอทั้งจากประชาชน จากผู้ใต้บังคับบัญชา และจากผู้บังคับบัญชาหลง…จากจิตใจที่ไม่ได้รับการเรียนรู้การฝึกฝนให้ดีงามจากพระธรรมคำสอน  สรุปว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยในการเป็นตำรวจ เพราะมีทางเดินไปสู่ปัญหาและความยุ่งยาก อย่างน้อย 4 ช่องทาง ในขณะที่มีช่องทางให้เดินอย่างสง่าผ่าเผยและสงบร่มเย็นมีเพียงช่องทางเดียว คือจิตใจที่แข็งแกร่งด้วยพระธรรมเป็นหางเสือของชีวิตเป็นคันบังคับจิตใจตนเอง เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ถูกต้อง  อย่ากลัวฯ อย่าอยากฯ รับรองไม่มีใครทำอะไรได้  แต่ต้องยอมรับสภาพว่าหากทำได้เช่นนั้น เรียกว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี ก็ต้องยอมรับความจริงว่ามันจะต้องเป็นไปเช่นนั้น หากคนทำดีมีน้อยกว่าคนทำไม่ดี ระบบที่ไม่ดีนั้นก็จะส่งเสริมคนที่เข้าระบบนั้น คิดซะว่าคนทำดีเกิดผิดยุค น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ  ไม่ว่าระเบียบหรือกฎหมายที่ดีวิเศษอย่างไร ย่อมแพ้ระบบของคนส่วนใหญ่ที่เขายอมรับกัน มันเป็นเช่นนี้ในทุกส่วนราชการ 

ถึงอย่างไรประเทศชาติยังต้องเดินต่อไป เวลาจะเป็นเครื่องรักษาและค่อยๆปรับปรุงกันไป หมดหน้าที่ของคนรุ่น 80-90 แล้ว ฝากความห่วงใยความหวังไว้กับคนรุ่นหลานเหลนต่อไปนะครับ…