รวบแล้วตำรวจโจร ดักรีดเงินจีนเทาที่พัทยา 7 แสนบาท

338

รวบแล้วตำรวจโจร ดักรีดเงินจีนเทาที่พัทยา 7 แสนบาท

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานว่า จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจขับรถปาดหน้า ที่บริเวณด่านเก็บเงินบนถนนมอเตอร์เวย์ (ทางหลวงหมายเลข 7) ฝั่งขาเข้าพัทยาต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แล้วอุ้มไปรีดเงิน
จำนวน 700,000 บาท นั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 พร้อมชุดสืบสวนภาค 2 และชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามหาตัวผู้เสียหายชาวจีน หลังไม่ยอมปรากฏตัวและไม่เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนกระทั่งล่าสุดตำรวจไปพบ 2 ชาวจีน ผู้เสียหาย ทราบชื่อคือ นายจินฉุย อายุ 43 ปี และ นายเฉิน เหว่ย อายุ 44 ปี หลังหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านจอมเทียนต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยอ้างเบื้องต้นว่าไม่กล้าเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ เพราะกลัวความผิดในเรื่องหลบหนีเข้าเมือง

จากนั้นตำรวจมีการอายัดตัว นายจิน ฉุย และนายเฉินเหว่ย มาทำการสอบปากคำที่ สภ.หนองปรือ ในกรณีที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ รีดเงิน 700,000บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ ตำรวจมีการสอบปากคำนานหลายชั่วโมง แต่ก็ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลความจริง แถมยังมีกระแสข่าว การออกหมายจับตำรวจและกลุ่มพลเรือน รวมทั้งหมด 5 คน

นายจิน ฉุย และ นายเฉิน เหว่ย ให้การว่า ได้หลบหนีมาจากประเทศจีน เนื่องจากถูกออกหมายจับในประเทศจีน ฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับการพนัน จึงได้ลักลอบหลบหนีออกมาจากประเทศจีน ต้นเดือน ธ.ค. 66 เข้าสู่ประเทศลาว หลังจากนั้น วันที่เกิดเหตุได้ลักลอบหลบหนีจากประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทย โดยข้ามแม่น้ำโชงเข้ามาประเทศไทยในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยมีคนไปรับที่บริเวณริมแม่น้ำโขงไปส่งที่สนามบินเชียงราย และต่อมามีคนมารับที่สนามบินเชียงรายมุ่งหน้าสู่เมืองพัทยา ก่อนจะถูกตำรวจตามจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัว ชาวจีนทั้ง 2 คน ส่งดำเนินคดีในข้อกล่าวหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

โดยมีรายงานว่าศาลจังหวัดพัทยา ได้อนุมัติหมายจับ ตำรวจนายหนึ่ง ประจำสังกัด กก.ปพ.บก.สส.ภ.2(ปัจจุบันไปช่วยราชการที่อื่น) ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 378/2567 ลงวันที่ 22 ก.ค. 67 ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้
ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, ร่วมกันหน่วงเหนียวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#ข่าวอาชญากรรมวันนี้